ร้านอาหาร-ตลาด รับปรับตัวหนักหลัง ‘คลายล็อก’ ยันภาพรวมดีขึ้น แต่คน ‘ยังหวั่น’
ภายหลังรัฐบาลประกาศผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่บริเวณหมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ว่า ร้านอาหารต่างทยอยเปิดเป็นจำนวนมากทั้งส่วนที่เป็นร้านค้า และหาบเร่ แผงลอย โดยหลายร้านยังคงใช้วิธีการให้ลูกค้าสั่งกลับบ้านมากกว่าอนุญาตให้นั่งทานที่ร้าน เนื่องจากร้านอาหารบางประเภทมีข้อจำกัดบางประการที่ส่งผลให้ปรับตัวค่อนข้างยากลำบาก
นางกรณิศ กุหลาบวรรณ ผู้จัดการร้านเบียร์หิมะ เปิดเผยว่า เนื่องจากร้านเบียร์หิมะเป็นร้านอาหารซีฟู้ดที่มีขนาดใหญ่ ประมาณ 200 โต๊ะ อีกทั้งมี 2 สาขา คือ สาขาประชานิเวศน์ 1 และเกษตรนวมินทร์ ซึ่งโดยปกติลูกค้าจะนิยมมาทานอาหารเป็นครอบครัว หรือกลุ่มบริษัท จึงไม่สะดวกให้ลูกค้านั่งทานที่ร้าน เพราะร้านจะต้องจัดพื้นที่ให้นั่งแยก โต๊ะละ 1 คน โดยจะต้องเว้นระยะห่าง 1.5 เมตร ตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งมองว่าค่อนข้างลำบากในการจัดร้าน จึงตัดสินใจขายแบบดิลิเวอรีเช่นเดิม โดยส่วนมากลูกค้าจะสั่งกลับบ้านโดยโทรศัพท์มาสั่ง หรือสั่งผ่านบริการส่งอาหาร สำหรับร้านเบียร์หิมะยังไม่มีช่องทางสั่งอาหารผ่านไลน์ มีเพียงเฟซบุ๊กเพจ ซึ่งลูกค้าบางรายก็สั่งผ่านช่องทางนี้ ช่วงนี้ทั้ง 2 สาขาจึงยังไม่เปิดให้นั่งทานที่ร้าน เพราะไม่สะดวกกับลูกค้าด้วย หากต้องปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนดไว้
นางกรณิศกล่าวต่อว่า สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยปกติลูกค้ามาทานอาหารจะนิยมสั่งเบียร์วุ้น ซึ่งตอนนี้ก็ต้องงดขายไปก่อน รายได้หายไปประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ เพราะขายเฉพาะดิลิเวอรี วัตถุดิบหลักอย่างอาหารทะเลก็น้อยลง ส่วนมากร้านจะขายอาหารทะเลแบบเป็นๆ ซึ่งไม่ค่อยมีของมาส่ง ช่วงนี้คนส่งของสดต้องหยุดงานจำนวนมาก วัตถุดิบอาหารทะเลจึงหายาก จากที่ส่งวันต่อวันก็ไม่มีของเพราะของน้อยลง และต้องสั่งน้อยลงด้วย เพราะลูกค้าลดลงมาก ของที่ตุนก็น้อยลง เน้นขายวันต่อวัน ของหมดจึงสั่งใหม่ ในส่วนของพนักงาน ตั้งแต่รัฐบาลประกาศขอความร่วมมือให้ปิดกิจการชั่วคราว ส่วนมากพนักงานจะกลับบ้าน เหลือเพียงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ที่อยู่ดูแลร้าน ซึ่งหากสถานการณ์กลับมาเป็นปกติพนักงาน จึงจะได้กลับมาทำงานเช่นเดิม เพราะส่วนมากพนักงานเป็นแรงงานต่างด้าว ต้องรอให้รัฐบาลประกาศเข้าประเทศได้
“แผนต่อไปในอนาคตยังไม่รู้ ต้องรอดูสถานการณ์และมาตรฐานของรัฐบาลอีกครั้ง หากสถานการณ์ดีขึ้น ยอดผู้ติดเชื้อลดลง 14 วันหลังจากนี้รอดูว่าจะมีการผ่อนผันเพิ่มอีกหรือไม่ มาตรการในช่วงนี้ยอมรับว่าค่อนข้างจัดร้านยาก แต่ถือว่าเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลผ่อนคลาย แต่ก็มีมาตรการเข้มงวดอยู่ เข้าใจว่าต้องทำให้ปลอดภัยไว้ก่อน ซึ่งทางร้านเบียร์หิมะก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะข้าใจว่ากระทบทุกคน สำหรับมาตรการตอนนี้จะมีการวัดอุณหภูมิลูกค้าก่อนเข้าร้าน ตั้งเจลล้างมือทางเข้าออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยส่วนมากลูกค้าที่ซื้อกลับจะนั่งรอข้างนอกร้าน และช่วงนี้ปิดร้านเร็วขึ้น จากปกติเปิด 10.00 -23.00 น. ปัจจุบันประมาณ 19.00-20.00 น. ลูกค้าไม่ค่อยมีก็จะเริ่มปิดร้าน” นางกรณิศกล่าว
ด้าน น.ส.สรวงภัสสร นาคแท้ อายุ 29 ปี ผู้จัดการร้านเนื้อตุ๋นบางกอก เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการของร้านเนื้อตุ๋นบางกอก มีการเว้นระยะห่างตามที่รัฐบาลกำหนด รวมทั้งมีการทำความสะอาดโต๊ะ พื้นผิว พร้อมทั้งตั้งแอลกอฮอล์ล้างมือ สเปรย์แอลกอฮอล์สำหรับเช็ดโต๊ะ โดยโต๊ะสำหรับให้ลูกค้านั่งทานที่ร้านจะมีการแบ่งระยะห่าง หากเป็นโต๊ะขนาดเล็กจะให้นั่งไม่เกิน 2 คน คนละด้าน และจัดให้โต๊ะแต่ละตัวมีระยะห่าง 2 เมตร จากปกติทางร้านจะมีที่นั่งประมาณ 20 โต๊ะ รวมโซนด้านในสุด แต่เนื่องจากกระจายให้โต๊ะห่างกันมากขึ้น จึงจัดให้มีที่นั่งได้น้อยลง เหลือเพียง 10 โต๊ะ
“สำหรับบรรยากาศหลังคลายล็อกวันแรก โดยรวมถือว่าดี มีลูกค้าจำนวนมากมานั่งทานที่ร้านมากขึ้น เป็นลูกค้าบริเวณนี้และจากที่อื่นเดินทางมาก็มี ซึ่งจากเดิมจะสั่งกลับบ้านมีทั้งที่ซื้อหน้าร้านและสั่งผ่านแอพพลิเคชั่น โดยส่วนของเมนูยังคงเดิม คือ มีก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ราดหน้า คั่วไก่ สุกี้ ข้าวผัดเนื้อเค็ม หมูสะเต๊ะ เนื้อสะเต๊ะ ลูกชิ้นปิ้ง และเต้าหู้ทอด เป็นต้น โดยหลังจากที่รัฐบาลคลายล็อก มองในมุมผู้ประกอบการรู้สึกดีขึ้นมาก จากเดิมช่วงที่ลูกค้าสั่งกลับบ้านยอดขายลดลงอย่างมากเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะโดยปกติจะได้ลูกค้าจากกลุ่มพนักงานออฟฟิศ และข้าราชการจำนวนมาก เมื่อออฟฟิศปิดลูกค้าก็น้อยลงไปโดยปริยาย แต่เมื่อเปิดให้นั่งทานที่ร้านได้ผลตอบรับค่อนข้างดี”
“ช่วงเวลานี้เข้าใจว่าจะต้องมีการผ่อนปรนเป็นระยะ หากคลายทั้งหมดผู้ติดเชื้อก็อาจเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการอาจต้องกลับมาปิดเป็นระยะเวลายาวนานกว่าเดิม จึงมองว่าควรค่อยๆ ผ่อนปรนไปทีละจุด ส่วนตัวเห็นด้วยตามนโยบายของรัฐบาล และพร้อมความร่วมมือปฏิบัติตาม” น.ส.สรวงภัสสรกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายว่า ที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 นายแกละ ทุมพานิช พนักงานดูแลตลาดประชานิเวศน์ 1 สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สำหรับตลาดประชานิเวศน์ 1 ยังคงมีมาตรการเช่นเดิม คือ ใช้วิธีคัดกรองก่อนเข้าตลาด โดยวันแรกที่รัฐบาลเปิดให้นั่งทานที่ตลาดได้ ก็ได้มีการเว้นระยะห่างที่นั่ง สลับซ้ายขวา โดยมีที่กั้นบนโต๊ะ และอนุญาตให้นั่งได้โต๊ะละ 2 คนเท่านั้น จากปกติบริเวณศูนย์อาหารจะมีเก้าอี้นั่งทานได้ประมาณ 24 ตัว ในส่วนของแม่ค้า เช่น บริเวณตลาดโต้รุ่งจะตั้งอีกรูปแบบ ซึ่งทาง สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานครได้มีการแนะนำข้อปฏิบัติกับผู้ค้า พร้อมทั้งพิมพ์ข้อความใส่กระดาษเอสี่แปะไว้ที่พื้น เพื่อกำหนดให้นั่งผู้ค้านั่งสลับ เว้นระยะห่างกัน
“หลังจากเปิดแม่ค้าโอเคขึ้น ซึ่งความจริงแล้วตลาดที่นี่ก็ไม่ได้หยุดขาย คนยังซื้อห่อกลับบ้านปกติ เพราะประชานิเวศน์ 1 เป็นตลาดสดจึงเปิดตลอด มาตรการตอนนี้มีการตั้งจุดคัดกรองคนเข้า-ออก ซึ่งจะสามารถเข้าได้เพียง 2 จุด คือ บริเวณร้านวิเชียรข้าวแกง ด้านหลังศูนย์อาหาร และด้านหน้าตลาดประชานิเวศน์ 1 มีการตีเส้นระยะห่างเพื่อไม่ให้คนอยู่ชิดกัน นอกจากนี้หากไม่สวมหน้ากากอนามัยจะไม่อนุญาตให้เข้าตลาดด้วย” นายแกละกล่าว และว่า
อย่างไรดี ตลาดประชานิเวศน์ 1 ไม่สามารถจำกัดจำนวนคนเข้าได้ เนื่องจากเป็นตลาดสด แต่มีการความทำสะอาดทุกวัน โดยทางสำนักงานเขตจะเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยเป็นระยะ ส่วนมากคนจะเริ่มจางประมาณ 18.00 น. -19.00 น. ซึ่งจะมีเจ้าของสรรพสามิตที่รับผิดชอบเรื่องความสะอาดเข้ามาเคลียร์พื้นที่ จะมีการล้างตลาดและทำความสะอาดอยู่ตลอด โดยช่วงก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาฉีดยาฆ่าเชื้อ แต่การฉีดจากพื้นน้ำยาจะกระเด็นขึ้นมา จึงต้องฉีกจากข้างบน แต่ด้วยลักษณะตลาดสดทำเช่นนั้นไม่ได้ จึงฉีดได้เฉพาะตามถนน ดังนั้น สำหรับมาตรการถือว่าเข้มงวดในระดับหนึ่ง แต่ผู้ค้าก็ให้ความร่วมมือตามเนื้อผ้า
“สำหรับตลาดต้องเข้าใจว่า คนเหมือนกันทั้งหมดไม่ได้ เพราะเลือดคนละก้อน เลือดก้อนเดียวบางครั้งความคิด ความเห็นก็ไม่ตรงกัน แต่โดยภาพรวมถือว่าเรียบร้อยดี ความกังวลของผู้ค้ามีบ้าง กลัวว่าหากมีคนใดคนหนึ่งในตลาดติดโรคโควิด-19 เชื่อว่าจะไม่ได้ติดแค่ 1 คน คนทั้งตลาดระแวงไปด้วย เพราะตลาดก็ต้องปิด ทุกวันนี้ยังพอขายได้เพราะตลาดสดไม่ปิด แต่หากวันใดวันหนึ่งโควิดกลับมาอีกระลอก หรือมีคนติดเชื้อตลาดจะสั่งปิดโดยไม่มีข้อแม้ เราจึงประชาสัมพันธ์เพื่อขอให้ผู้ค้าให้ความร่วมมือ และขอให้ผู้ซื้อเว้นระยะห่าง ผู้ค้าไม่สวมหน้ากากอนามัยไม่ต้องซื้อ ขอความร่วมมือคนซื้อถ้าไม่ใส่หน้ากากอนามัยเราก็ไม่ขาย พยายามประชาสัมพันธ์ให้ทุกฝ่ายเข้าใจ”
“วันนี้เปิดให้คนนั่งกินได้วันแรก บรรยากาศตลาดยังไม่คึกครื้นนักเพราะคนยังกลัวอยู่ เช่น มากับครอบครัว 3 คน ลูก และ ภรรยา ต้องนั่งแยกกันกิน ครอบครัวก็อาจจะไม่อยากมากิน ส่วนมากคนจึงซื้อห่อกลับไปกินที่บ้าน ต้องดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของตัวเอง คนเราต้องช่วยกันพึ่งพาตนเอง และพึ่งพาคนอื่นด้วย ช่วยกันกระจายบอกข่าวคนข้างเคียง จะให้คนอื่นมาห่วงใยดูแลเราฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องห่วงใยตัวเองด้วยจึงจะอยู่รอดปลอดภัย ส่วนตัวดูแลตลาดแม่ค้าบางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ เวลาคัดกรองใช่ว่าจะทุกคนจะชอบเสมอไป เราคัดกรองตรงนี้ ขอให้ไปออกทางนั้น ก็มีปัญหาบ้าง จะพูดแรงก็ไม่ได้ บางคนบอกฉันอ่านหนังสือออก หลากคนหลากความคิด” นายแกละกล่าว
เศ
