โฆษก ศบค. ขออภัย “ทดลองเปิดห้าง” ชี้ยังไม่มีแนวทางชัดเจน ต้องรอมติ 15 พ.ค.นี้
ทดลองเปิดห้าง- กรณีการเปิดกิจการ/กิจกรรมในมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ที่คาดว่าจะเริ่มในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ เช่น การเปิดห้างสรรพสินค้า โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ และเบื้องต้นคาดว่าจะเลือกสถานที่ใดในการทดลองเปิดให้บริการก่อนเปิดระยะที่ 2 เช่น การทดลองเปิดห้างสรรพสินค้า ในวันที่ 14-15 พฤษภาคม นี้นั้น
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ได้กล่าวขออภัยกรณีดังกล่าวในระหว่างแถลงความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การเปิดกิจการ/กิจกรรมใดต้องผ่านกระบวนการของการประชุมปรึกษาเสนอต่อ ศบค.ชุดใหญ่ก่อน และชุดกิจการ/กิจกรรมที่จะเปิดในระยะที่ 2, 3 และ 4 ยังไม่มีการกำหนดรายละเอียด เนื่องจากต้องกำหนดตามความเสี่ยงของการระบาดโรค แต่อย่างไรก็ตาม หากมีความพร้อมในการเปิดกิจการมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ก็จะทำให้ทุกๆ อย่างกลับมาโดยเร็วได้ แต่ยังไม่มีการกำหนดระยะที่ 2
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การทดลองเปิดห้างสรรพสินค้าในวันที่ 14-15 พฤษภาคมนี้นั้น ขอชี้แจงรายละเอียดว่า การหากลุ่มตัวอย่าง/พื้นที่ทดลองเปิด (Sandbox) เป็นเพียงแค่ 1 การออกแบบในรูปแบบของวิธีที่จะนำมาทดลองดำเนินการ ซึ่งแท้จริงแล้วยังไม่มีข้อสรุป โดยจะมีข้อสรุปในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ โดย ศบค.ชุดใหญ่จะเป็นคณะตัดสิน
“ที่มีการพูดคุยกันมี 2 รูปแบบ คือ รูปแบบที่ 1 ระบบ Sandbox เป็นระบบหนึ่งที่นำทุกๆ ถ้าจะเอาห้างทุกห้างมาเปิดหมดก็ไม่ไหว ก็จะเอาเพียงบางห้างมาเปิดแทน และ รูปแบบที่ 2 ตอนนี้ทุกห้างมีการเปิดให้บริการอยู่แล้ว แต่ว่าเปิดเพียงบางกิจการ/กิจกรรม แต่ก็จะขยับขึ้น เช่น ตอนนี้เปิด 20% ก็จะเปิดเป็น 30% หรือ 50% ค่อยๆขยายตามกิจการ/กิจกรรม ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า ที่ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ เนื่องจากยังไม่มีการนำเสนอเข้าที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ และ ศบค.ชุดเล็กไม่มีอำนาจในการทำทดลองในสถานที่ใดได้เลย
“จึงต้องขออภัยที่เมื่อวาน (วันที่ 9 พฤษภาคม) ได้มีการรายงานชุดข้อมูลนี้ไป ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจว่าจะมีการทดลองเปิดบริการแล้ว ซึ่งหากดูตามข้อกำหนดแล้ว ไม่สามารถดำเนินการได้ จะต้องรอมติในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ โดยรูปแบบต่างๆ เหล่านี้จะมีทางเลือกให้ ศบค.ได้ตัดสินใจ ทั้งนี้ประชาชนสามารถร่วมให้ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะในการใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินได้” โฆษก ศบค. กล่าว
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในระหว่างนี้ หากอยากจะให้อะไรเกิดขึ้น เพียงสแกนคิวอาร์โค้ด เปิดเข้าไป ตอบแบบสอบถามที่อยากจะรับทราบจากประชาชนว่า ในกิจการ/กิจกรรมย่อยๆ จะให้เปิดในช่วงไหน และ
“ท่านจะมีส่วนร่วมใดในการทำให้เกิดมาตรการนี้สำเร็จได้อย่างไรด้วย จริงๆ แล้วลักษณะนี้ไม่ใช่การสั่งการของ ศบค.เพียงอย่างเดียว เราต้องรับฟังประชาชนด้วย ซึ่งมี 3 ส่วนที่สำคัญมากๆ ในแต่ละมาตรการ คือ 1.ผู้ประกอบกิจการ/กิจกรรม 2.ผู้ใช้บริการกิจการ/กิจกรรม และ 3.ผู้ที่ต้องกำกับดูแล” โฆษก ศบค.กล่าวและว่า ทั้ง 3 ส่วนนี้ จะต้องไปด้วยกันเพื่อให้การผ่อนปรนประสบความสำเร็จ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องเหล่านี้มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันและเศรษฐกิจ แต่ต้องไม่ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้น ศบค.ให้ความสำคัญในทุกเรื่องอย่างมาก ทำมาตลอด 1 เดือนนี้ จะต้องไม่ให้มีผลลัพธ์ที่เป็นอย่างอื่น นอกจากอย่างเดียวคือ เราต้องควบคุมโรคให้ได้ อย่างน้อยก็มีผู้ป่วยหลักเดียว ซึ่งเป็นที่ปรารถนาอย่างมาก เพราะเป็นศูนย์คงยาก
