สธ.เผยไทยคืบ “วัคซีนโควิด-19” ต่อคิวความร่วมมือของจีน-สหรัฐฯ
วัคซีน- เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค แถลงถึงความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19
นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า เรื่องของการพัฒนาวัคซีน ประเทศไทยโชคดีที่มีสถาบันวัคซีนแห่งชาติและมียุทธศาสตร์ในการที่จะพึ่งพาตัวเองตัวเอง (Master plan) นักวิทยาศาสตร์ไทย เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มีศักยภาพในการพัฒนาวัคซีน ร่วมกับ บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย อยู่ในช่วงของการพัฒนาต้นแบบวัคซีน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี และในขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็มีความร่วมมือกับประเทศจีน อยู่ในระหว่างการพัฒนาระยะที่ 2 สหรัฐอเมริกา อยู่ในระหว่างการพัฒนาระยะคลินิก ทั้ง 2 ประเทศ มีศักยภาพสูงมากในการพัฒนาวัคซีน ซึ่งประเทศไทยเราเป็นส่วนหนึ่งในนั้น และหากวัคซีนในประเทศไทยมีการพัฒนาออกมาได้ดี ประสบความสำเร็จก็จะมีวัคซีนใช้เป็นของตนเอง
“ในการพัฒนาวัคซีนด้วยเทคโนโลยีและกำลังความสามารถ จะต้องใช้เวลาประมาณ 24-36 เดือน ซึ่งอาจจะไม่ทันเวลา ดังนั้น ในเชิงระบบแล้ว การร่วมมือกับประเทศที่มีศักยภาพสูง ขณะนี้เราก็เป็นส่วนหนึ่ง และจะเป็นช่วงที่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีบางอย่างที่สามารถทำได้ประเทศไทย ซึ่งหมายความว่า เมื่อไรก็ตามที่วัคซีนถูกคิดค้นขึ้นมา ซึ่งได้ผลสำเร็จ มีความปลอดภัย และสามารถสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ ประเทศไทยก็สามารถที่จะเข้าคิวในการรับวัคซีนมาให้แก่กลุ่มเสี่ยงของประเทศไทยได้ นี่คือข้อดีของการทำงานร่วมกับประเทศที่พัฒนาแล้ว” นพ.อนุพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า ส่วนในประเทศอื่นที่มีการระบุว่าพัฒนาวัคซีนสำเร็จแล้วนั้น จะต้องให้ทราบว่าอยู่ในระยะไหนในความสำเร็จ เช่น การทดลองในสัตว์ทดลอง หรืออยู่ในระยะของคลินิก ซึ่งในประเทศไทยวัคซีนที่พัฒนาโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังอยู่ในระยะของการทดลองในสัตว์ ยังไม่ได้ไปถึงระยะของคลินิก แต่เชื่อว่าวัคซีนเป็นคำตอบ หากว่ามีวัคซีนขึ้นมาใช้ ก็จะสามารถฉีดภูมิคุ้มกันในกลุ่มเสี่ยงได้ เพื่อให้ปลอดจากโรคโควิด-19 ได้
