โฆษก ศบค. เผยพฤติกรรม ปชช. สวมหน้ากาก-เว้นระยะห่างน้อยลง หลังผ่อนปรนมาตรการ

โฆษกศบค.เผย พฤติกรรมป้องกันโรคของปชช.ลดลงหลังผ่อนปรนมาตรการ พบสวมหน้ากาก จาก 91.2% เหลือ 91% เว้นระยะห่างจากผู้อื่น จาก 65.3% เหลือ 60.7%

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 17 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) แถลงถึงสถิติมาตรการผ่อนคลายโดยข้อมูลจากรายงานผลสำรวจการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในระหว่างมาตรการผ่อนปรน ซึ่งเป็นการศึกษาร่วมกันของกระทรวงสาธารณสุขและมหาวิทยาลัยต่างๆ และหลายส่วนงาน โดยพฤติกรรมการป้องกันโดยรวม ก่อนผ่อนปรนมาตรการ 23-30 เมษายน จาก 77.6 % หลังผ่อนปรนมาตรการ 8-14 พฤษภาคม 72.5 % สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ทุกครั้ง จาก 91.2% ลดลงเหลือ 91. % ถือว่ายังพอรับได้ ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมมือ ส่วนล้างมือด้วยสบู่หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทุกครั้ง 87.2 ลดลงเหลือ 83.4 % กินร้อน ใช้ช้อนกลาง จาก 86.1 ลดลงเหลือ 82.3 % ระวังไม่อยู่ใกล้ผู้อื่น ระยะน้อยกว่า 2 เมตร หรือการเว้นระยะห่าง จาก 65.3% ลดลงเหลือ 60.7% และไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก จาก 62.9% ลดลงเหลือ 52.9%

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจกิจการกิจกรรมของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ( ศปม.) ข้อมูลวันที่ 16 พฤษภาคม โดยส่วนใหญ่ร่วมมือดี ตรวจสอบ 20,204 แห่ง ปฏิบัติครบตามมาตรการ 20,153 แห่ง ปฏิบัติไม่ครบถ้วน 51 แห่ง คิดเป็น 0.25% และไม่ปฏิบัติตามนั้น ไม่มีเลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image