กทม.จ่อผ่อนปรน ‘เฟส 3’ ถก ‘ระบบขนส่งสาธารณะ’ วางแผนรับมือ

กทม.จ่อผ่อนปรน ‘เฟส 3’ ถก ‘ระบบขนส่งสาธารณะ’ วางแผนรับมือ

ผ่อนปรน- เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ศาลาว่าการ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 จากการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ โดยมี คณะผู้บริหารกทม. ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (เอ็มอาร์ที) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ร่วมประชุม

ทั้งนี้ ในที่ประชุม ทุกหน่วยงานได้นำเสนอมาตรการและแนวทางการปฏิบัติเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งหลังจากการแพร่ระบาดของโรค พบว่าทุกภาคส่วนมีจำนวนผู้โดยสารลดลงอย่างชัดเจน และเมื่อมีมาตรการผ่อนปรน เริ่มมีจำนวนผู้โดยสารมากขึ้น ซึ่งทุกหน่วยงานได้เพิ่มขีดความสามารถการรองรับผู้โดยสารโดยคำนึงถึงมาตรการเว้นระยะห่าง  (Social Distancing) เป็นสำคัญ รวมทั้งการจัดจุดคัดกรอง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่จัดเตรียมไว้ และใช้ระบบการจ่ายเงินออนไลน์มากขึ้น ในส่วนของผู้ประกอบการเอกชน หน่วยงานที่ดูแล ได้ขอให้ผู้ประกอบการเคร่งครัดมาตรการเว้นระยะห่าง การเพิ่มเที่ยวเดินรถหรือเรือ และการดูแลรถให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ภายหลังการประกาศมาตรการผ่อนปรนโดยหน่วยงานภาครัฐ พบว่าการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเว้นระยะห่าง ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งจากการหารือร่วมกันทุกหน่วยงานเห็นว่ามาตรการเว้นระยะห่างเป็นสิ่งสำคัญและยินดีให้ความร่วมมือตามข้อกำหนดของ กทม. ทั้งนี้ หน่วยงานได้เสนอให้ภาครัฐและภาคเอกชนให้ความสำคัญกับการเหลื่อมเวลาการทำงานมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าจะมีนัยสำคัญต่อการแพร่ระบาดของโรค เพื่อเฉลี่ยจำนวนผู้โดยสาร รวมทั้งการกำหนดมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการรถโดยสาร ที่ได้รับผลกระทบจากการจำกัดผู้โดยสารต่อเที่ยวและการเพิ่มความถี่ในการบริการมากขึ้น และขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยบริเวณป้ายรถเมล์ สถานีรถไฟฟ้า ตามมาตรการเว้นระยะห่าง

“กทม.ได้ขอให้ทุกหน่วยงานพิจารณาวางแผนเพื่อรองรับมาตรการผ่อนปรนในระยะต่อไป อาทิ การควบคุมจำนวนผู้โดยสารให้พอเหมาะกับมาตรการเว้นระยะห่าง การพิจารณาจำกัดจำนวนผู้โดยสารก่อนเข้าใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อให้ภายในรถโดยสารสามารถปฏิบัติตามมาตรการได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดระเบียบผู้โดยสารบริเวณสถานี การขึ้นลง จุดยืนรอ การขอความร่วมมืองดการพูดคุยและใช้โทรศัพท์ระหว่างโดยสาร รวมทั้งการดูแลผู้โดยสารในช่วงหน้าฝน เพื่อไม่ให้มีประชาชนตกค้าง โดยอาจเพิ่มความถี่ของเที่ยว เป็นต้น” พล.ต.ท.โสภณ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image