ศบค.เผยป่วย “โควิด-19” รายใหม่ มีประวัติไป “ร้านตัดผม” ย่านประชาชื่น!

ศบค.เผยป่วย “โควิด-19” รายใหม่ มีประวัติไป “ร้านตัดผม” ย่านประชาชื่น!

โควิด-19 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล “โควิด-19” ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) เปิดเผยระหว่างแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวัง และระบบบริการ จำนวน 2 ราย อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

1.1 ไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว สถานพยาบาล ได้แก่

Advertisement

รายที่ 1 ชายไทย อายุ 72 ปี สัญชาติไทย โรคประจำตัว เบาหวาน มะเร็งปอด ไปรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) รัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมื่อ 4 วันที่แล้ว มีประวัติไปตัดผมร้านแถวประชาชื่น ต่อมาวันที่ 18 พฤษภาคม มีอาการ ไข้ ไอ มีเสมหะ จึงไปรับการรักษาที่ รพ.เอกชน และ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ย้ายไป รพ.รัฐเดิมที่รักษาตัวอยู่

รายที่ 2 ชาย อายุ 42 ปี สัญชาติเยอรมัน ไม่มีโรคประจำตัวและไม่มีอาการ มีประวัติเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน – วันที่ 16 พฤษภาคม และเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม มีญาติ 1 คน มีอาการไข้ คอแห้ง แต่ไม่ได้ตรวจรักษา เดินทางไปห้างสรรพสินค้าใน จ.ชัยภูมิ หลังจากกลับมา ผู้ป่วยรายนี้ได้ไปตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ผลตรวจพบเชื้อ จึงเข้ารักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

กลุ่มที่ 2 การค้นหาเชิงรุกในชุมชน (active case finding) จำนวน 0 ราย

Advertisement

กลุ่มที่ 3 ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศแล้วเข้าสถานกักกันที่รัฐบาลจัดไว้ (state quarantine) 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 25 ปี ไปเรียนภาษาและกลับจากประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม เข้าพัก State Quarantine เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ตรวจพบเชื้อ แต่ไม่มีอาการ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ภายหลังมาตรการผ่อนคลาย และมีความจำเป็น เช่น ไปห้างฯ ไปร้านตัดผม ซึ่งผู้ป่วยรายใหม่ในชุมชนมีประวัติไปที่ต่างๆ จะต้องไปดูว่าขณะนั้นมีการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะแล้วหรือยัง หากมีการลงทะเบียนแล้ว ก็จะตามผู้เกี่ยวข้องมาตรวจได้ง่าย โดยไม่ต้องหว่านแห

“ช่วงที่หนึ่งคือช่วงที่ประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ประกาศเคอร์ฟิว ทำให้ผู้ป่วยลดลงมาเรื่อยๆ และในมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 1 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ส่งผลให้ตัวเลขยังอยู่ในหลักเดียว ยกเว้นวันที่ 8 พฤษภาคม ที่พบผู้ป่วยในสถานกักกันโรคฯ นอกนั้นยังอยู่ในเลขหลักเดียวสลับกับศูนย์ และการผ่านมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ซึ่งเมื่อวันที่ 17-21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะนี้เหลืออยู่ 9 วัน ดังนั้น สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นสิ่งที่เราทำมา 7 หรือ 14 วันที่ผ่านมา หมายความว่า ผลที่เราพบผู้ป่วย 3 ราย เกิดขึ้นจากระยะผ่อนปรนระยะที่ 1 และสิ่งที่เรากำลังทำในวันนี้ก็จะเกิดขึ้นในระยะผ่อนปรนที่ 3 เพราะฉะนั้นการ์ดอย่าตก เราจะต้องไปต่อ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image