อธิบดีกรมอนามัย เผย “สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย” เตรียมพร้อมเปิดบริการเฟส 3

อธิบดีกรมอนามัย เผย “สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย” เตรียมพร้อมเปิดบริการเฟส 3

ผ่อนปรนเฟส3 – เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการดูแลสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย (สพด.) ในช่วงปิดเทอมระยะยาว และมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในสถานรับเลี้ยงเด็ก ว่า ในการดูแลพัฒนาการของเด็กเล็ก เป็นการทำงานของ สธ.ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกระทรวงมหาดไทย (มท.) ที่มีสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทั่วประเทศกว่า 30,000 แห่ง โดยเกือบทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของทางองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.)

“ได้มีการประชุมอย่างต่อเนื่องกับสมาคมวิชาชีพ เช่น สมาคมโรงเรียนอนุบาล สมาคมศูนย์ดูแลเด็ก โดยสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยตามกฎหมาย คือ ช่วงอายุเด็กแรกเกิดไปจนถึง 6 ขวบ ดังนั้น จึงครอบคลุมสถานรับเลี้ยงเด็กตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 2 ขวบครึ่ง จากการสำรวจพบว่า จำนวนเด็กที่เข้าถึงบริการพัฒนาการเด็ก จำนวนเด็กที่มีพัฒนาการปกติ และการเข้าถึงวัคซีนตามช่วงวัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วหรือเมื่อช่วง 2 เดือนก่อนที่จะเกิดวิกฤตโควิด-19” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า เมื่อเริ่มมีมาตรการผ่อนคลายในแต่ละระยะ ผู้ปกครองเริ่มกลับไปทำงาน ดังนั้นสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยมักเป็นหน่วยงานทางสังคมที่หลายประเทศมีการอนุญาตให้เปิด หรือผ่อนปรนได้

Advertisement

กรมอนามัยได้จัดทำมาตรการสำหรับการเปิดสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ในมาตรการหลัก 6 คือ ได้แก่ 1.วัดไข้ 2.สวมหน้ากากอนามัย 3.ล้างมือ 4.เว้นระยะห่าง 5.ทำความสะอาด และ 6.ลดแออัด โดยยึดหลักการจัดเด็กให้เป็นกลุ่มย่อยไม่เกิน 6 คน/กลุ่ม และพยายามไม่ให้มีปฏิสัมพันธ์ข้ามกลุ่ม ซึ่งเป็นหน้าที่ของครูผู้รับผิดชอบ จุดเน้นในการปฏิบัติในช่วงโควิด-19 ได้แก่ 1.พื้นที่ร่วมต้องสะอาด 2.การเข้าแถวแบบเว้นระยะห่าง 3.การแยกของใช้ส่วนตัว เช่น ของเล็ก 4.จัดห้องแยก สำหรับกรณีที่มีเด็กป่วย 5.สื่อสารองค์ความรู้ จิตอาสา และ 6.รถรับ-ส่งเด็ก” พญ.พรรณพิมล กล่าว

นอกจากนี้ พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า คำแนะนำสำหรับผู้บริหาร/เจ้าของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ได้แก่ 1.ชี้แจง ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่และผู้ปกครอง 2.ควบคุม กำกับ ดูแล ครู/เจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตาม 3.จัดให้มีช่องทางการสื่อสารแก่ผู้ปกครอง 4.หากพบเห็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ผู้บริหารแจ้งหน่วยงานทางการแพทย์ทันที 5.กำหนดจุดรับ-ส่ง และไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองหรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่ พร้อมเตรียมอุปกรณ์ล้างมือ หลังจากเด็กเข้ามาในพื้นที่แล้วจะต้องเปลี่ยนชุดและให้เด็กสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน 6.ทำความสะอาดสถานที่ อุปกรณ์และยานพาหนะ 7.จัดทำอาหารที่ถูกสุขลักษณะ และ 8.มีมาตรการเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ส่วนคำแนะนำสำหรับครูและผู้ดูแลเด็ก ได้แก่ 1.หากพบว่ามีอาการป่วย ต้องหยุดงานและไปพบแพทย์ทันที 2.ทำความสะอาดร่างกายก่อนปฏิบัติงาน 3.กิจกรรมของเด็กทั้งหมด ให้เน้นการเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร และคำแนะนำสำหรับผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลาน ได้แก่ 1.หากเด็กมีอาการป่วยให้หยุดเรียนและพบแพทย์ 2.ทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ 3.ทำความสะอาดร่างกาย ล้างมือเมื่อกลับถึงบ้าน 4.เตรียมของใช้ที่จำเป็นเพื่อสับเปลี่ยน และ 5.ไม่ไปในที่คนแออัด

“ผู้ปกครองต้องเริ่มเตรียมการ และเตรียมความพร้อมของบุตรหลาน หากสถานการณ์เอื้ออำนวยเข้าสู่สถานการณ์ที่ผ่อนปรนในลำดับถัดไป เด็กๆ ก็จะได้ไปที่สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยและใช้เวลาในการเรียนรู้อย่างเพียงพอตามช่วงวัย และในการตรวจสอบนั้นจะต้องมีการสุ่มตรวจเก็บข้อมูล เนื่องจากไม่สามารถลงไปในพื้นที่ทีเดียวพร้อมกันได้หมดทุกแห่งทั่วประเทศ พร้อมทั้งประชาชนสามารถส่งข้อมูลในการประเมินสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยเหล่านั้นได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเจาะพื้นที่เหล่านั้น” พญ.พรรณพิมล กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image