ดูประเทศนอก ย้อนดูประเทศเรา “ไทยยังไม่ถึงเวลาเฉลิมฉลอง” เจ้าโควิด-19 พร้อมอาละวาด

ดูประเทศนอก ย้อนดูประเทศเรา “ไทยยังไม่ถึงเวลาเฉลิมฉลอง” เจ้าโควิด-19 พร้อมอาละวาด

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19

นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้พบว่า สถานการณ์ผู้ป่วยในไทยขณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการมาจากต่างประเทศ ทำให้สบายใจได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะเฉลิมฉลองเพราะทางฝ่ายวิชาการเชื่อว่าจะยังมีผู้ป่วยที่อยู่ในประเทศ อาจจะมีอาการน้อยหรือไม่มีอาการเลยไม่เข้ารับบริการตรวจ สธ.จึงเน้นการเฝ้าระวังและออกไปค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะขณะนี้แม้จะมี 65 จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ในรอบ 1 เดือน แต่ในจังหวัดที่เคยมีผู้ป่วยจำนวนมากมาก่อน สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ มีความเป็นไปได้ที่จะมีผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหลงเหลืออยู่ในชุมชน โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร(กทม.)และปริมณฑล เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี และ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นสถานการณ์คล้ายกับในประเทศจีนที่ไม่มีรายงานการพบผู้ป่วยใหม่มาระยะหนึ่ง แต่ก็กลับมาพบผู้ป่วยประปรายอีกแสดงว่ายังมีคนอาการน้อยหลงเหลือในชุมชน

“จากการถอดบทเรียนในประเทศจีนมีการพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนบนรถโดยสารสาธารณะปรับอากาศ ที่มีคนค่อนข้างแน่น และอยู่ร่วมกันค่อนข้างนาน มีผู้โดยสารที่มีเชื้ออยู่ 1 คน นั่งแถวหลัง ปรากฏว่าเกิดการติดเชื้อตามมาอีกหลายคน รวมถึงผู้โดยสารที่นั่งห่างไกล 4.5 เมตร เห็นว่าการอยู่ร่วมกันนานในที่ที่มีระบบปรับอากาศจะทำให้เชื้อแพร่ได้ไกลกว่า 2 เมตร ดังนั้นจึงแนะนำให้ทุกคนต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยช่วงที่โดยสารรถสาธารณะ เช่นเดียวกับที่ร้านอาหารซึ่งมีการสวมหน้ากากอยู่แล้ว ต้องพยายามให้คนนั่งห่างกันอย่างน้อย 2 เมตร หรือติดฉากกั้น ป้องกันละอองฝอยน้ำลาย” นพ.ธนรักษ์ กล่าวต่อว่า
นอกจากนั้น นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า เมื่อถอดบทเรียนการควบคุมป้องกันโรคของประเทศสวีเดน ที่มีความแตกต่างจากประเทศไทย โดยประเทศสวีเดนดำเนินนโยบายเปิด ปล่อยให้เกิดการระบาดของโรคโดยอิสระเพราะตั้งใจให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่โดยเร็ว ซึ่งรัฐบาลสวีเดนคาดการณ์ว่าจะมีประชากรครึ่งหนึ่งติดเชื้อภายในเดือนพฤษภาคมก็จะยุติการระบาดได้ถึง ร้อยละ 60 ตอนนี้พบว่าประเทศสวีเดนมีอัตราการติดเชื้อค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับประเทศนอร์เวย์และฟินแลนด์ และมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าประเทศอื่นๆ สูงกว่าสหรัฐอเมริกาด้วย แต่เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วพบว่าอัตราการติดเชื้อสะสมเพียงร้อยละ 7 ของประชากรทั้งหมด

“ดังนั้นแม้จะมีการระบาดมาก แต่ก็ไม่ได้ไปเร็วเหมือนที่รัฐบาลสวีเดนคิดไว้ จึงทำให้เกิดความกังวลว่าจะดำเนินมาตรการควบคุมโรคอย่างไรต่อไปดี สอดคล้องกับสถานการณ์ในหลายประเทศในยุโรปที่เคยมีข่าวแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมก็ไม่ได้สูงมากอย่างที่ทางการหลายประเทศหวังจะให้เป็นว่าจะให้จบเร็วๆ เพราะฉะนั้นการเปิดให้มีการแพร่ระบาดของโรคโดยอิสระนี้ไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย เพราะศักยภาพทางการแพทย์ จำนวนโรงพยาบาล จํานวนเตียงต่อประชากร จำนวนแพทย์ต่อประชากรไม่ได้มีมากมายเหมือนกับประเทศที่ร่ำรวย” นพ.ธนรักษ์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image