นายกฯ ยันเฟส 4 เริ่มเร็วๆ นี้ กิจการใดผ่าน เปิดก่อนได้ ไม่ต้องรอ!
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) กล่าวระหว่างแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ขณะนี้สนามบินหลายแห่งเปิดให้บริการแล้ว ยกเว้นสนามบินภูเก็ต โดยเมื่อเช้านี้ ศบค.ชุดเฉพาะกิจ มีการประชุมหารือกันในมาตรการเคลื่อนย้ายประชาชน เนื่องด้วยมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 ในส่วนของสนามบิน ที่มีการโดยสารคนจำนวนมากและมีความแออัด จึงมีหลักพิจารณาสนามบิน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ท่าอากาศยานที่อยู่นอกสังกัดบริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) และไม่พบประวัติการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในระยะเวลา 14 วันที่ผ่านมา รวมถึงมีระบบควบคุมโรคที่ดี สามารถเปิดได้ 2.ท่าอากาศยานที่อยู่ในสังกัด AOT ในจังหวัดที่มีประวัติการแพร่ระบาดของโรคประปรายในช่วง 14 วันที่ผ่านมา และมีระบบควบคุมโรคที่ดี สามารถเปิดได้ และ 3.ท่าอากาศยานในสังกัด AOT ในจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง มีประวัติการแพร่ระบาดของโรคจำนวนมาก และระบบการควบคุมโรคยังคงต้องมีการประเมินอยู่ โดยข้อมูลของ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ยังพบการติดเชื้อในพื้นที่อยู่ ซึ่งยังอยู่ในระยะเวลา 14 วันของการแพร่เชื้อ จึงจะต้องใช้ระยะเวลาในการเฝ้าระวัง หากไม่พบการแพร่ระบาดของโรคไปจนถึงวันที่มีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ก็จะได้เปิดอย่างแน่นอน
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในมาตรการของการควบคุมโรคของแต่ละจังหวัด เปรียบเหมือนการควบคุมโรคของประเทศไทยกับต่างประเทศ คือ จะต้องมีการเตรียมสถานกักกันของรัฐ (State Quarantine) สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ เพื่อความสบายใจ ดังนั้น ก่อนหน้านี้ในแต่ละจังหวัดก็มีการแพร่ระบาดต่างกัน จึงมีความระมัดระวังมากขึ้นและมีการกำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นมา และการติดเชื้อในขณะนี้ส่วนมากเป็นการนำเข้าเชื้อมาจากต่างประเทศ หรือการเดินทางย้ายถิ่น จึงทำให้แต่ละพื้นที่มีระบบจัดการไม่เหมือนกัน โดยประเทศไทยมีการกระจายอำนาจให้แต่ละจังหวัด และสามารถป้องกันโรคและมีมาตรการต่างๆ ได้เอง
“บางจังหวัดที่มีความเข้มงวดอยู่ ขึ้นอยู่กับเหตุผลของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และจะต้องอธิบายให้กับประชาชนทั้งในและนอกจังหวัด หากมีมาตรการเข้มข้น ผู้ที่จะเดินทางข้ามผ่านจังหวัด ก็จะต้องตรวจสอบพื้นที่นั้นๆ ก่อน โดยสามารถโทรไปที่ศูนย์ดำรงธรรมของแต่ละจังหวัดได้ว่ามีมาตรการอย่างไร” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า มาตรฐานของสถานกักกันโรคฯ ของประเทศไทยมีความเข้มข้นในการคัดกรอง และมีผู้ที่เข้าอยู่ในระบบมากกว่าหมื่นราย ดังนั้นจึงมีความมั่นใจมาก หากมีความผิดพลาดก็จะมีสัญญาณออกมาฟ้องเอง แต่ในขณะนี้ยังอยู่ในมาตรฐานที่ดี และขอให้มั่นใจได้
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในการเปิดกิจการ/กิจกรรม ระยะของมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 4 อาทิ ผับ บาร์ กิจกรรมกลุ่มสีแดง โดยทางที่ประชุม ศบค. ได้มีหารือกันทุกวัน และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ระบุว่า หากกิจกรรมใดที่พร้อม ก็สามารถเปิดได้ก่อน แต่จะต้องผ่านความเห็นจากคณะกรรมการเฉพาะกิจ
“โดยการประชุมที่มี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธาน เป็นโต๊ะหลักคอยรับฟัง และผู้ประกอบการเข้าหารือ หากถามตอบกันรู้เรื่อง ก็สามารถนำเสนอเข้าคณะกรรมการชุดใหญ่ในสัปดาห์หน้า หากยังไม่ดี ก็ให้เป็นการบ้านของคณะกรรมการมารับทราบใหม่อีกทีหนึ่ง โดยเจ้าของกิจการจะต้องสร้างความมั่นใจให้ได้ และต้องมีหลายภาคส่วนมาพิจารณาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นกรมควบคุมโรค กรมอนามัย และผู้ประกอบการ โดยคาดว่าจะได้ข่าวดีเร็วๆ นี้” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
