ศบค.เผยกรอบ “แทรเวล บับเบิล” ไฟเขียวกลุ่มผู้เดินทางได้สิทธิ์ก่อน
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) กล่าวระหว่างแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ประเทศไทยไม่พบการติดเชื้อในประเทศติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา 28 วัน ซึ่งเป็น 2 เท่าของระยะการฟักเชื้อ มีความน่าไว้วางใจมากขึ้น แต่ยังคงไม่สามารถผ่อนคลายมาตรการทุกอย่างกลับไปเป็นเช่นเดิมได้ เนื่องจากการนำเชื้อเข้าเพียง 1 ราย ก็ส่งผลการติดเชื้อในระดับที่มีการติดเชื้อรุนแรงได้ โดยมีการหารือกันว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยเป็นศูนย์รายครบ 28 วัน
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ศบค.ชุดเฉพาะกิจ ที่จะกำหนดมาตรการผ่อนคลาย กล่าวว่า มาตรการแทรเวล บับเบิล (Travels bubble) จะมีการแบ่งกลุ่ม 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มเป้าหมายที่มีความพร้อมและตอบรับการเข้าสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) แบ่งเป็น 4 กลุ่มย่อย คือ 1.นักธุรกิจ นักลงทุน ซึ่งมีการลงทะเบียนแล้วประมาณ 700 คน 2.กลุ่มแรงงานฝีมือ ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ การทำงานด้านธุรกิจ ประมาณ 22,000 คน 3.กลุ่มคนต่างด้าว ที่มีครอบครัวเป็นคนไทย โดยมีถิ่นที่อยู่ในไทย ประมาณ 2,000 คน และ 4.กลุ่มผู้เดินทางที่เข้ามาด้านการแพทย์ (medical and wellness tourism) ประมาณ 30,000 คน ซึ่งจะมีการพักอยู่ในโรงพยาบาลที่มีมาตรการ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า 2.กลุ่มผู้เดินทางเข้ามาและขอผ่อนผันที่จะไม่อยู่ในสถานกักกันโรคฯ(State Quarantine) แบ่งเป็น 3 กลุ่มย่อย 1.นักธุรกิจ นักลงทุน เดินทางเข้ามาในระยะสั้น เช่น เจรจาธุรกิจ 2-3 วัน 2.แขกของรัฐบาล หรือหน่วยงานราชการต่างๆ ในการเป็นวิทยากร การประชุม การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในช่วงเวลาสั้นๆ และ 3.นักท่องเที่ยว ผู้เดินทางตามโครงการแทรเวล บับเบิล โดยจะต้องมีมาตรการในการรองรับผู้เดินทางในกลุ่มนี้ และคาดว่าจะมี 3 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยมากที่สุด ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงในการจับคู่ประเทศ
“ในกลุ่มแรกนี้ จะมีการเสนอเข้า ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อให้ทำได้เลย เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนทางธุรกิจ โดยไม่จำกัดประเทศ แต่จะต้องผ่านการเข้าในสถานกักกันโรคฯ โดยอีกกลุ่มจะเป็นการเดินทางโดยไม่อยู่ในสถานกักกันโรคฯ เป็นการเดินทางระยะสั้น แต่จะต้องมีการควบคุมโรคตั้งแต่ลงเครื่องบิน การเดินทางในประเทศไทย เพื่อป้องกันโรค” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นายทหารพิเศษประจำหน่วยทหารรักษาพระองค์ รองผู้บัญชาการทหารบก รองประธานกรรมการในคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รองหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลาง ศบค. จะมีการนำเสนอต่อชุดการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และนำเสนอต่อ ศบค.ชุดใหญ่ ต่อไป
