กทม.สุ่มตรวจ ‘โควิด-19’ เชิงรุก เกินเป้า 107% ยังไม่พบติดเชื้อ
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ศบค.กทม.ครั้งที่ 61/2563 ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 โดยการสุ่มตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ในประชากรกลุ่มเสี่ยง และสถานที่เสี่ยง (Sentinel Surveillance) ซึ่ง กทม.ได้รับการสนับสนุนชุดทดสอบจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จำนวน 15,210 ชุด และได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 สรุปผลการดำเนินงานถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2563 ได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้วทั้งสิ้น 16,235 ราย การสุ่มตรวจคิดเป็นร้อยละ 106.74 จากยอดชุดตรวจที่ได้รับการสนับสนุนจาก สธ. โดยตรวจไม่พบเชื้อ 11,246 ราย อยู่ระหว่างรอผล 4,989 ราย
“นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ขอให้หน่วยงานต่างๆ ตรวจแนะนำสถานประกอบการ กิจการ กิจกรรม ที่ได้รับการผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 หากพบสถานประกอบการใดไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งขอให้รณรงค์กระตุ้นเตือนประชาชนระมัดระวังดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล อาทิ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น ตลอดจนขอให้ประชาชนปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการรวมถึง กทม.กำหนด ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในหลายประเทศที่แม้จะไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศแล้ว แต่ยังเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ได้ ดังนั้นจึงขอให้สถานประกอบการและประชาชน อย่าละเลยการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดรอบใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ต่อไป” ผอ.ศบค.กทม. กล่าว
