กรมควบคุมโรคส่งทีมตะลุยราชบุรี-สมุทรสงคราม เร่งสอบเคส “แรงงานเมียนมา” ติดโควิด-19

กรมควบคุมโรคส่งทีมตะลุยราชบุรี-สมุทรสงคราม เร่งสอบเคส “แรงงานเมียนมา” ติดโควิด-19

วันที่ 9 กรกฎาคม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่มีรายงานว่าพบแรงงานชาวเมียนมาป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ภายหลังเดินทางกลับจากประเทศไทย (ในรายที่ 312 ของประเทศเมียนมา) ว่า กรมควบคุมโรคได้ประสานข้อมูลกับประเทศเมียนมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยมอบหมายให้กองระบาดวิทยา สำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 5 จ.ราชบุรี (สคร.5 จ.ราชบุรี) และสำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 2 จ.พิษณุโลก (สคร.2 จ.พิษณุโลก) เร่งดำเนินการสอบสวนโรคและรายละเอียดเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าว ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เพชรบุรี สสจ.สมุทรสงคราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่

“จากการสอบสวน พบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นเพศชาย อายุ 39 ปี สัญชาติเมียนมา ปัจจุบันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) ย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2563 ไม่มีอาการไข้ หรืออาการผิดปกติ การอยู่ในประเทศไทยผู้ป่วยเช่าหอพักอยู่คนเดียวในพื้นที่ จ.เพชรบุรี และขี่รถจักรยานยนต์มาทำงานในโรงงานในพื้นที่จ.สมุทรสงคราม ผู้ป่วยใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่โรงงานกับหอพัก และไม่ได้ไปทำงานตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน โดยช่วงที่ออกจากงานถึงเดินทางกลับเมียนมา (วันที่ 11-23 มิถุนายน 2563) ผู้ป่วยอยู่ที่พักทุกวัน” อธิบดีกรมควงคุมโรค กล่าว

ทั้งนี้ นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม โรงงานดังกล่าวมีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรค โดยวัดอุณหภูมิทุกคนก่อนเข้าทำงาน ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีจุดจ่ายแอลกอฮอล์ล้างมือ เน้นรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล มีการทำความสะอาดโรงอาหารและมีแผงกั้นบนโต๊ะอาหาร และจากข้อมูลการเจ็บป่วยของคนงานในโรงงานช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2563 พบว่าไม่มีคนงานที่มีอาการป่วยตามนิยามของโควิด-19 หรือการเจ็บป่วยโรคทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อน

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานในพื้นที่ กรมควบคุมโรค ได้ส่งทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) จากสคร.5 จ.ราชบุรี ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ดำเนินการสอบสวนโรคในพื้นที่หอพักและโรงงานดังกล่าว โดยได้ค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยง และตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อนในพื้นที่ และให้คำแนะนำในการป้องกันควบคุมโรคกับทางหอพักและโรงงานด้วย นอกจากนี้ สคร.2 จ.พิษณุโลก ยังได้ประสานเพื่อตรวจสอบข้อมูลกับทางด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สอด 2 จ.ตาก เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านในการสอบสวนโรค

Advertisement

นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ยังต้องขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนดำเนินมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง “การ์ดอย่าตก” เนื่องจากอาจมีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการในชุมชน

“แต่ที่ประเทศไทยไม่มีการระบาด เพราะทุกคนยังคงร่วมกันเคร่งครัดมาตรการป้องกันโรคดังกล่าวอย่างจริงจัง ทั้งการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล รวมถึงการช่วยกันสอดส่องดูแลและแจ้งข่าวกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อเฝ้าระวังร่วมกัน” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวและว่า ประเทศไทยยังคงดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง และตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางตามจุดผ่านเข้าออกพรมแดนของประเทศอย่างเข้มข้น ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทย ที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image