กรุงเทพฯ ไร้โควิด-19 กว่า 103 วัน กทม.วอนพบต่างด้าวผิด กม.แจ้ง จนท.

กรุงเทพฯ ไร้โควิด-19 กว่า 103 วัน กทม.ขอปชช.พบต่างด้าวเข้าเมืองผิด กม.แจ้ง จนท.รัฐ หวั่นแพร่เชื้อ

เมื่อวันที่ 1 กันยายน พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ศบค.กทม. ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ปัจจุบันไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ มาเป็นเวลากว่า 103 วัน และไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทยมากว่า 99 วันแล้วก็ตาม

“แต่ที่ประชุมขอให้ทุกฝ่ายรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงการระมัดระวัง ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลตามมาตรฐานการใช้ชีวิตวิถีใหม่ อาทิ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น ตลอดจนขอให้ประชาชนปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการ รวมถึง กทม.กำหนดอย่างเคร่งครัด ตามคำขวัญที่ว่า ป้องกันไว้ตลอดเวลา ระลอกใหม่มาเราก็สู้ไหว เนื่องจากหากประชาชนขาดการระมัดระวังตนเอง และมีผู้ติดเชื้อมาปะปนอาจเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้ และอาจจะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรง และเลวร้ายมากกว่าการแพร่ระบาดครั้งก่อนมาก ซึ่งจะส่งผลให้สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ และการดำรงชีพจะยากลำบากมากกว่าเดิมด้วย” รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

นอกจากนี้ พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า ขอให้ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างเป็นแรงงานต่างด้าว รวมทั้งประชาชนทั่วไป ร่วมเป็นหูเป็นตาให้กับหน่วยงานถาครัฐ หากพบเห็นแรงงานต่างด้าวที่อาจเข้าเมืองแบบไม่ถูกต้อง ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น เจ้าหน้าที่เทศกิจ หรือเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อเฝ้าระวังป้องกันการแพร่เชื้อ เนื่องจากผู้เข้าเมืองโดยไม่ถูกต้อง จะไม่ถูกกักตัวไว้สังเกตอาการซึ่งอาจเป็นพาหะนำโรคโควิด-19 เข้ามาสู่ประเทศไทยได้ และอาจจะทำให้ท่านและบุคคลใกล้ชิดได้รับเชื้อโควิด-19 รวมทั้งอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในกรุงเทพฯ หรือประเทศไทยได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า เนื่องจาก กทม.เป็นหน่วยงานภาครัฐ และนับเป็นหน่วยงานหลักในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ผ่านมา กทม.ได้ให้ข้าราชการและบุคลากรของหน่วยงานและส่วนราชการในสังกัดตรวจคัดกรองโควิด-19 โดยในระยะที่ 1 ได้ตรวจคัดกรองเฉพาะในกลุ่มข้าราชการและบุคลากรที่ต้องให้บริการและติดต่อกับประชาชนเป็นจำนวนมาก เช่น เจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุข เป็นต้น จำนวน กว่า 83,000 ราย เข้ารับตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วยระบบ BKK-Covid ซึ่งผลการคัดกรองพบผู้เข้าเกณฑ์สงสัยติดเชื้อ จำนวน 6 ราย แต่จากการตรวจ SWAB ทางเดินหายใจ ผลการตรวจเป็นลบ คือ ไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ติดเชื้อ

Advertisement

“ทั้งนี้ ในระยะที่ 2 กทม.จึงกำหนดให้ข้าราชการและบุคลากรในหน่วยงานระดับสำนัก และข้าราชการ และบุคลากรสังกัดสำนักงานเขตกลุ่มที่ไม่ได้ให้บริการหรือติดต่อกับประชาชนเป็นจำนวนมากโดยตรง ประมาณกว่า 22,600 ราย เข้าสู่ระบบการตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วยระบบ BKK-Covid ทั้งนี้ เพื่อเป็นตัวอย่างการเฝ้าระวังและการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ให้กับหน่วยงานอื่นต่อไป” รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image