หวั่นโควิด-19 ปท.เพื่อนบ้านลามเข้าไทย สธ.สั่งเข้มจุดสกัด ผลึกกำลัง อสม.-อสต.สู้

หวั่นโควิด-19 ปท.เพื่อนบ้านลามเข้าไทย สธ.สั่งเข้มจุดสกัด ผลึกกำลัง อสม.-อสต.สู้

วันนี้ (23 กันยายน 2563) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากกรณีที่มีรายงานสถานกาณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับไทย ได้แก่ เมียนมา มาเลเซีย กัมพูชา และลาว โดยมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะประเทศเมียนมาและมาเลเซียที่ยังพบผู้ป่วยรายใหม่อย่างต่อเนื่อง จากรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ณ วันที่ 23 กันยายน ประเทศเมียนมาพบผู้ป่วยรายใหม่ 592 ราย ผู้ป่วยสะสม 6,743 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 115 ราย ส่วนประเทศมาเลเซียพบผู้ป่วยรายใหม่ 82 ราย ผู้ป่วยสะสม 10,358 ราย ประเทศกัมพูชา 275 ราย และประเทศลาว 23 ราย

“จากสถานการณ์ของโรค จะเห็นว่าในประเทศเมียนมามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ทางการเมียนมาจึงได้เพิ่มมาตรการล็อกดาวน์เมืองย่างกุ้ง โดยให้ทำงานอยู่ที่บ้าน งดเว้นการจัดกิจกรรม ยังคงปิดโรงเรียนต่อ และปิดโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า เพื่อป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ไม่ให้ระบาดเป็นวงกว้างภายในประเทศเมียนมา” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเทศไทย กรมควบคุมโรค ร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่ที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าวอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง หากพบปัญหาแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จะมีมาตรการทางกฎหมายที่เข้มข้นต่อไป พร้อมทั้งประเมินความเสี่ยงที่โรคโควิด-19 อาจแพร่ระบาดมายังประเทศไทย เพื่อวางแผนในการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ของโรคที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังที่ด่านชายแดน ทั้งด่านที่เป็นทางการและด่านธรรมชาติ โดยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประชากรต่างด้าว (อสต.) จะร่วมตรวจสอบพื้นที่และตรวจลาดตะเวน รวมทั้งเฝ้าระวัง ร่วมกับการค้นหาผู้ติดเชื้อและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เชิงรุกแก่ประชาชนในพื้นที่ และจัดสถานที่กักกันท้องถิ่น (Local Quarantine) สำหรับกักตัว หากพบความผิดปกติหรือคนแปลกหน้าในชุมชน จะประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที

“ขอให้ปฏิบัติตามแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) อย่างเคร่งครัด และขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบสาธารณสุขของประเทศไทยที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยทุกหน่วยงานมีการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น เพื่อเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image