สธ.ตามตรวจอีก 85 ราย เสี่ยงโควิด-19 จากแหม่มฝรั่งเศส ชี้สถานการณ์โลกยังรุนแรง

สธ.ตามตรวจอีก 85 ราย เสี่ยงโควิด-19 จากแหม่มฝรั่งเศส ชี้สถานการณ์โลกยังรุนแรง

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลกขณะนี้ยังคงพบการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง โดยไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยในวันนี้มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 459,020 ราย โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป พบว่ามีการระบาดในระลอกที่ 2 รุนแรงกว่ารอบแรก

นพ.ธนรักษ์กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยเมื่อเทียบกับทั่วโลกถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี โดยเหตุการณ์สำคัญในช่วงนี้ ได้แก่

สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนแม่สอด จ.ตาก ที่พบผู้ติดเชื้อในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 11 ราย ติดตามผู้สัมผัสได้ทั้งหมด 93 ราย และได้ค้นหาเชิงรุกในชุมชนอย่างต่อเนื่องโดยได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้ว 12,713 ราย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม นับว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้วสามารถควบคุมโรคในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

Advertisement

การพบผู้ติดเชื้อชาวฝรั่งเศสที่ อ.เกาะสมุย ขณะนี้ได้ดำเนินการสอบสวนโรค ติดตามผู้สัมผัสได้เกือบทั้งหมด แบ่งเป็น ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 46 ราย ได้ติดตามเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการและเข้ารับการกักตัวแล้ว 41 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อ อยู่ระหว่างการติดตามอีก 5 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 80 ราย ยังคงเฝ้าระวังติดตามอาการต่อเนื่อง จนครบ 14 วัน” นพ.ธนรักษ์กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม การพบผู้ติดเชื้อ 1-2 ราย เช่นใน อ.แม่สอด หรือ อ.เกาะสมุย สามารถทำให้เกิดรูปแบบการระบาดได้ 3 แบบ ดังนี้

1.สถานการณ์ที่ป้องกันโรคได้ดี ไม่พบผู้ติดเชื้อตามมาหลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรก สิ่งสำคัญคือความร่วมมือของคนไทยที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคทั้งส่วนบุคคล และส่วนองค์กร ได้เป็นอย่างดีและต่อเนื่อง

2.สถานการณ์พบผู้ติดเชื้อแต่ควบคุมได้ โดยพบผู้ติดเชื้อตามมาอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการควบคุมโรคจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับการพบผู้ติดเชื้อรายแรก และความร่วมมือ และวินัยในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ควบคุมโรคของคนในพื้นที่

Advertisement

3.สถานการณ์พบผู้ติดเชื้อแต่ควบคุมโรคได้ช้า เป็นการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นกลุ่มก้อน หลังพบผู้ติดเชื้อรายแรก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สุขภาพกายและสุขภาพจิตของคนในประเทศ

นพ.ธนรักษ์กล่าวว่า แม้ว่าเป้าหมายการควบคุมโรคโควิด-19 ไม่ใช่ทำให้ผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ เนื่องจากมีโอกาสพบผู้ติดเชื้อได้ กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการสำคัญที่จะจัดการกับสถานการณ์ คือค้นพบผู้ติดเชื้อได้เร็วเข้าสอบสวนโรคอย่างละเอียดรอบคอบ และสิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และการป้องกันตัวของประชาชนในการป้องกันควบคุมโรค เช่น หลีกเสี่ยงสถานที่แออัด สวมใส่หน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ กินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว หากพบว่ามีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ร่วมกับมีประวัติเสี่ยงให้รีบพบแพทย์ จะทำให้ประเทศสามารถควบคุมโรคได้

“การที่กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนการเปิดเศรษฐกิจประเทศ ไม่ว่าการเปิดด่านชายแดนหรือ การเปิดรับนักท่องเที่ยว สิ่งสำคัญที่สุดความปลอดภัยของประชาชน โดยไม่ลดมาตรฐานการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค” นพ.ธนรักษ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image