ไทม์ไลน์เมียนมาติดโควิด-19 ชี้ตะลอนไปทั่ว จับ 111 คนใกล้ชิดตรวจ เคสหญิงไทยป่วยส่งกลับรักษาใน ปท.
วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2563) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมกรณีที่มีรายงานข่าวการตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในพื้นที่ชายแดน จ.ตาก ว่า กรมควบคุมโรคได้มอบหมายให้กองระบาดวิทยา ประสานข้อมูลอย่างใกล้ชิด และมอบหมายสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จ.พิษณุโลก (สคร.2 จ.พิษณุโลก) ซึ่งดูแลพื้นที่ จ.ตาก ส่งทีมลงพื้นที่ทำงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการสอบสวนโรคและตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าวทันที
นพ.โอภาสกล่าวว่า จากรายงานในเบื้องต้น กรณีที่ 1 เป็นชายชาวเมียนมา อายุ 48 ปี เคยอาศัยในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ จ.ตาก และออกจากศูนย์ได้ประมาณ 2 ปี ญาติให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยไปทำงานที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก เมื่อกลางเดือนตุลาคม ไปทำงานต่อที่ อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นผู้ป่วยเดินทางกลับไป อ.วังเจ้า แต่หลงทางในป่า 10 วัน เดินไม่ไหว แต่เมื่อพบคนที่มาจากพื้นที่พักพิงฯ จึงขอให้แจ้งญาติมารับกลับ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน เดินทางถึงพื้นที่พักพิงฯ โดยไม่ได้ออกไปไหนเลย ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไข้ และเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน อาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) ในพื้นที่พักพิงฯ ซึ่งได้ทำการส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากศูนย์วิจัยมาลาเรียโซโกล (SMRU) จ.ตาก ผลพบเชื้อ จึงได้ส่งต่อไปรักษาที่ รพ.แม่สอด จ.ตาก และทีมสอบสวนได้ดำเนินการค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด 12 ราย ผลตรวจ 9 ราย ไม่พบเชื้อ อีก 3 ราย รอผลการตรวจ ขณะนี้ทุกรายนำไปพักอยู่ที่สถานที่กักกันโรค ส่วนผลตรวจในกลุ่มบ้านผู้ป่วย 99 ราย ผลไม่พบเชื้อ 49 ราย รอผลอีก 50 ราย
นพ.โอภาสกล่าวว่า ส่วนใน กรณีที่ 2 เป็นหญิงไทย อายุ 17 ปี เป็นนักเรียน ตามทะเบียนบ้านอยู่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน มีไข้ เจ็บคอ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน เดินทางมาจากเมียนมา เข้ารับการรักษาใน รพ.เอกชนแห่งหนึ่งใน อ.แม่สอด จ.ตาก ผลตรวจเบื้องต้นพบว่า เป็นบวก จึงได้ส่งต่อมารักษาที่ รพ.แม่สอด โดยผลตรวจทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธี RT-PCR ยืนยันพบเชื้อโควิด-19 และภาพถ่ายรังสีปอดพบรอยโรคของปอดอักเสบ ขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยได้ดำเนินการสอบสวนโรคและตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เพื่อค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยในกรณีนี้ต่อไป
“สธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้เร่งดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวน และมาตรการป้องกันควบคุมโรคของ สธ.อย่างเข้มข้นทั้ง 2 กรณีดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่และประชาชนชาวไทยทุกคน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนการ์ดอย่าตก คงมาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ตระหนักแต่ไม่ตระหนก ขอให้รับฟังข่าวสารทางการจาก สธ.และจังหวัดอย่างต่อเนื่อง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422” นพ.โอภาสกล่าว
