สมุทรสงคราม ติดโควิดใหม่ 4 ราย พบ 2 รายเป็นแม่ลูกกัน-1 คนเป็นพยาบาล รพ.สต.-อีกรายไปเที่ยวหัวหิน

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 24 ธันวาคม ที่ศูนย์โควิด-19 จ.สมุทรสงคราม นายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นายหทัย พันธ์พงษ์วงศ์ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.สมุทรสงคราม นายแพทย์โชคชัย ลีโทชวลิต ผอ.โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า สมุทรสงคราม ร่วมกันแถลงสถานการณ์โควิด 19 ของจังหวัดสมุทรสงคราม ประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2563 ว่า จากการที่ได้มีการสอบสวนโรคและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มีความเสี่ยงที่เข้าไปในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ให้เข้ามารับการตรวจหาเชื้อประจำวัน 201 ราย รวมทั้งสิ้น 516 คน เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสัมผัสโรคสูงประจำวัน 124 รวม 315 ราย ผลปรากฏว่าเป็นบวกเพิ่มขึ้น 4 คน เป็นคนไทยทุกคน ทำให้มียอดสะสมระหว่างวันที่ 17-24 ธันวาคม 2563 รวม 11 คน

โดยทั้ง 4 ราย มีประวัติเสี่ยงเดินทางไปจังหวัดสมุทรสาคร โดยรายที่ 8 เป็นชายไทยอายุ 38 ปี อยู่ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม อาชีพค้าขายอาหารทะเลที่ตลาดทะเลไทย, รายที่ 9 เพศหญิงอายุ 26 ปี เป็นพยาบาล รพ.สต.บางโทรัด จังหวัดสมุทรสาคร มีแฟนอยู่จังหวัดสมุทรสงคราม, รายที่ 10 เพศหญิงอายุ 65 ปี อยู่ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม มีประวัติเดินทางไปหาบุตรสาวที่จังหวัดสมุทรสาคร และ รายที่ 11 เป็นชายอายุ 39 ปี อยู่ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม เป็นลูกชายรายที่ 10 มีประวัติเดินทางไปหาน้องสาวที่จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมมารดา ผู้ป่วยทั้งหมดกักตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสมุทรสงคราม

นายชรัสกล่าวว่า จังหวัดสมุทรสงครามถือเป็นพื้นที่ควบคุม มาตราการสำคัญได้ดำเนินการไปแล้วในการป้องกันมาตราสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง มาตราการแยกกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวกับผู้เสี่ยงสูงแยกจำกัดพื้นที่ที่พักอาศัย การออกมาตราการประกาศจังหวัดได้เผยแพร้ไปแล้ว มาตราการสำคัญในการตรวจหาเชื้อแรงงานต่างด้าวและกลุ่มเสียงสูง ซึ่งมีแผนการดำเนินการไปจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 28563 คาดว่าจะมีจำนวน 1,000 คน และกลุ่มที่เหลือจะดำเนินการในสัปดาห์ต่อไป

นายชรัสกล่าวว่า ขณะนี้ไม่ได้มีการล็อกดาวน์จังหวัดสมุทรสงคราม แต่ได้ดำเนินการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในจังหวัด โดยมีการปิดพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อ ปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยง และออกมาตราการเร่งด่วนลักษณะขอความร่วมมือ งด 4 อย่าง คือ 1.งดจัดงานกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นงานของหน่วยงานใดก็ตาม 2.งดการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง 3.งดการเคลื่อนย้านแรงงานต่างชาติหรือบุคคลผู้เป็นกลุ่มเสี่ยง และ 4.งดการนำสินค้าหรือยานพาหะนำจากพื้นที่เสี่ยงทั้งทางบกและทางน้ำ ส่วนการล็อกดาวน์นั้น เฉพาะพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำงานของแรงงานต่างด้าวที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image