โคราชพบอีก! ผู้ป่วยระลอกใหม่ 2 ราย ผัว-เมีย เปิดไทม์ไลน์ คาดติดเชื้อจากญาติสมุทรสาคร
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 มกราคม ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ด้านหลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมาและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมครั้งที่ 22/2564 ในระเบียบวาระการดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการและข้อสั่งการของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ
นายวิเชียร ผวจ.นครราชสีมา ชี้แจงสถานการณ์ในพื้นที่ 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา พบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ 2 ราย รวมสะสม 9 ราย โดยมีจำนวน 2 ราย รักษาหายและอีก 7 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ซึ่งมีอาการดีขึ้นและไม่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ
นพ.นรินทร์รัชต์ สสจ.นครราชสีมา เปิดเผยไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อรายที่ 8 ชายอายุ 59 ปี ข้าราชการบำนาญ มีบ้านพักอยู่ในเขตบ้านสระครก ต.จอหอ อ.เมือง วันที่ 18 ธันวาคม เดินทางไปพบญาติที่ จ.นครสวรรค์ และอยู่พบปะกับครอบครัวพี่ชายที่มีภูมิลำเนาใน จ.สมุทรสาคร 29 ธค. เดินทางไปเยี่ยมอาการป่วยของพ่อที่ จ.พิจิตร และอยู่ร่วมฉลองปีใหม่กับบรรดาญาติๆ วันที่ 2 มค. เดินทางกลับมา จ.นครราชสีมา และรับแจ้งพี่ชายติดเชื้อ วันที่ 3 ธค.จึงได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อกับภรรยา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 9 ที่ รพ.มหาราช ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ผลยืนยันทั้ง 2 ราย ติดเชื้อระลอกใหม่ ส่วนไทม์ไลน์รายที่ 9 วันที่ 21-28 ธค. ไม่ได้เดินทางไปกับสามีแต่ไปทำงานตามปกติ การสอบสวนระบาดวิทยามีผู้เสี่ยงสูง 7 ราย ทีม สสจ.นครราชสีมา ได้ดำเนินการเชิงรุกค้นหาผู้ป่วยรายใหม่และเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกอำเภอ เอาจริง กับสถานที่ หรือพื้นที่เสี่ยง ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับในการควบคุมโรคที่ทางจังหวัดกำหนด พร้อมออกประกาศการปฏิบัติตัวอย่างชัดเจนสำหรับผู้ที่เดินทางมายังจังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้จังหวัดนครราชสีมายังไม่ยกระดับการควบคุมโรคถึงขั้นการล็อคดาวน์จังหวัดแต่อย่างใด โคราชยังอยู่ในเฟส 1 คือพื้นที่ควบคุม แต่หากทุกภาคส่วนไม่ร่วมด้วยช่วยกันเราจะต้องล็อคดาวน์ ในส่วนการปิดสถานศึกษานั้น ให้เป็นอำนาจของ ผอ.รร.ในการพิจารณาในการปิดโรงเรียนหากพิจารณาว่าสถานการณ์เสี่ยงสูง
