พุ่งไม่หยุด! โควิดไทยพบป่วยใหม่ 527 ราย เป็นต่างด้าว 439 ราย คนไทย 82 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม
โควิดไทย – เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยว่า
ในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 527 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 82 ราย ติดเชื้อในกลุ่มแรงงานต่างด้าวจากการคัดกรองเชิงรุก 439 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (Quarantine) 6 ราย รวมสะสม 8,966 ราย แบ่งเป็น การติดเชื้อในประเทศ 6,900 ราย กลุ่มแรงงานต่างด้าว 2,476 ราย รักษาหายแล้ว 4,397 ราย ผู้เสียชีวิตสะสมที่ 65 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตอนนี้ประเทศไทยมีการติดเชื้อ 56 จังหวัด โดยจังหวัดที่เพิ่มขึ้นใหม่ คือ น่าน 1 ราย และสิงห์บุรี 3 ราย รายละเอียดของผู้ป่วยรายใหม่ แบ่งเป็น 1.มีประวัติไปสถานที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 56 ราย มาจากกรุงเทพมหานคร 15 ราย เพชรบุรี 1 ราย สุรินทร์ 1 ราย นนทบุรี 2 ราย สมุทรสาคร 31 ราย สิงห์บุรี 3 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย และสุพรรณบุรี 1 ราย 2.อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 26 ราย ได้แก่ นครปฐม 1 ราย น่าน 1 ราย สุราษฎร์ธานี 6 ราย และนนทบุรี 18 ราย 3.คัดกรองเชิงรุกแรงงานข้ามชาติ 439 ราย มาจากสมุทรสาคร และ 4.ต่างประเทศเข้ารับการกักกัน 6 ราย ได้แก่ อินเดีย 2 ราย ตุรกี 1 ราย ปากีสถาน 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย และเดนมาร์ก 1 ราย
“การพบผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศวันนี้ 82 รายจากวานนี้ 155 ราย แม้จะตกลงมาแต่ไม่ได้หมายความว่าจะดีขึ้นเพราะแนวโน้มยังทแยงขึ้น พรุง่นี้อาจจะขึ้นที่อาจมากว่านี้ก็ได้ ตอนนี้มีข้อมูลที่ไหลเข้ามาแต่ตัดเวลาที่เที่ยงคืน ดังนั้นในช่วงเวลาหลังจากนั้นก็มีเพิ่มขึ้นเข้ามาอีก” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การวิเคราะห์ข้อมูล คลัสเตอร์ (Cluster) จ.สมุทรสาคร เราเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม –วันที่ 4 มกราคม กระจาย 45 จังหวัด โดยมี จ.สมุทรสาคร ติดเชื้อมากที่สุด รองมาเป็นกรุงเทพฯนครปฐม สมุทรปราการ นนทบุรี เพชรบุรี สมุทรสงคราม เป็นต้น รวมตัวเลขทั้งหมด 2,536 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวเมียนมา ร้อยละ 71 รองมาคือ คนไทย ร้อยละ 24 และอื่นๆ ร้อยละ 5
“เหมือนเป็นลูกไฟอยู่ตรงกลางเป็นสีแดง เป็นกองไฟ แต่เมื่อลุกจึงมีสะเก็ดไฟตามคำพูดของ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระจายทั่วประเทศ ดังนั้น ฝ่ายปกครองและความมั่นคง ร่วมกับ สธ. จะต้องรีบจัดการและครอบไฟให้ดับ ไม่กระจายไปที่อื่น” นพ.ทวีศิลป์ กล่าวและว่า ส่วนในคลัสเตอร์ระยอง ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม – วันที่ 3 มกราคม รวมผู้ป่วย 426 ราย โดยมีจำนวน 144 ราย ที่สามารถจัดการข้อมูลได้ชัดเจน พบว่าเป็นหญิงมากกว่าชาย ซึ่งเชื่อมโยงกับพฤติกรรมการเล่น มีอายุที่มากกว่า 49 ปีขึ้นไป โดยส่วนใหญ่ไม่มีอาการป่วย และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบ่อนพนันนำเชื้อไปติดผู้สัมผัส ทั้งนี้กระจายไปถึงเชียงใหม่ อำนาจเจริญ และในระยอง ก็พบใน 8 อำเภอ มีสถานที่เสี่ยง ได้แก่ สถานที่พนัน 197 ราย บ่อนไก่ 11 ราย ฟิตเนส 9 ราย สถานบันเทิง 6 ราย โรงเรียน 3 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ข้อเสนอและข้อสรุปข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคโควิด-29 ของกระทรวงสาธารณสุข (ศปค.สธ.) ระบุว่า พบการกระจายมากขึ้นจากพื้นที่เสี่ยงเดิม โดยลงสู่การเล่นพนันพื้นบ้าน เช่น บ่อนไก่ใน จ.อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี แบะสุพรรณบุรี อีกทั้ง พบผู้ป่วยแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งลักลอบเข้ามาและถูกจับกุมได้ 19 ราย ผลตรวจพบติดเชื้อ 7 ราย ขณะนี้ถูกกักตัวทั้งหมดแล้วและพบการระบาดในสถานบันเทิงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่
โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยรายใหม่ 5.3 แสนราย สะสมที่ 86 ล้านราย เสียชีวิตเพิ่ม 9 พันราย สะสมที่ 1.8 ล้านราย ประเทศไทยขยับขึ้นมาที่ลำดับจาก 134 เป็น 132 เมียนมาพบป่วยใหม่ 590 ราย สะสมที่ 126,935 ราย และมาเลเซีย 1,741 ราย สะสมที่ 120,818 ซึ่งดีขึ้นกว่าเมื่อวันนี้
“ขอเน้นว่าหน้ากากป้องกันชนิดผ้า สามารถใช้ได้ ประหยัดและสามารถซักได้ โดยหน้ากากที่ทำด้วยฝ้าย ยิ่งซัก ยิ่งมีเส้นใยละเอียด กรองละอองฝอยได้ดี หากใช้ในชีวิตประจำวันสามารถใช้ได้ ส่วนหน้ากากทางการแพทย์ ขอเว้นไว้ในแพทย์ ผู้ป่วยและญาติ แม้ว่ากำลังการผลิตในประเทศจะสามารถทำได้วันละ 5 ล้านชิ้น แต่หากมีการแย่งกันใช้ในปริมาณสูง ก็อาจไม่เพียงพอสำหรับบุคลากรทางการแพทย์” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
