เปิดใจ ลูกชายเจ้าของที่ 7 ไร่ ยกให้สร้างโรงพยาบาลสนาม ‘สมุทรสาคร’ ขอบคุณ เก็บไว้ใช้ประโยชน์ต่อไป

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก สมยศ สหพรอุดมการ โพสต์ภาพพร้อมข้อความ โดยยินดีให้ใช้ที่ดินย่านพระรามสองขาเข้า พื้นที่ราว 7 ไร่ สำหรับสร้างโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมให้เบอร์ติดต่อไว้นั้น

เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 7 มกราคม นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และคณะ ลงตรวจสอบพื้นที่หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก สมยศ สหพรอุดมการ โพสต์ข้อความดังกล่าว พบว่า ที่ดินดังกล่าวนั้น แม้จะมีพื้นที่กว้างขวาง แต่ด้วยสภาพตัวอาคารที่มีขนาดเล็กเกินไป จึงไม่เพียงพอต่อการปรับให้เป็นศูนย์ห่วงใยคนสาคร และหากจะนำมาใช้ทำเป็นศูนย์ห่วงใยคนสาครจริง ก็จะต้องมีการปรับสภาพหลายอย่าง ใช้เวลาค่อนข้างนาน ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดมีข้อจำกัดหลายอย่าง โดยเฉพาะความเร่งรีบที่ต้องดำเนินการให้ทันต่อจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงไม่มีเวลาเพียงพอที่จะดำเนินการ อีกทั้งอุปกรณ์ เช่น เต็นท์สนามก็ไม่มีรองรับ จึงนับเป็นข้อจำกัดที่ทางจังหวัดสมุทรสาครไม่สามารถจะดำเนินการให้เป็นศูนย์ห่วงใยคนสาครได้ แต่ทั้งนี้ทางจังหวัดฯจะขอรับพื้นที่ดังกล่าวไว้ เพื่อประเมินความพร้อมในการนำมาใช้ประโยชน์ด้านอื่น เพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 ต่อไป

อ่านข่าว : แห่ชื่นชม! หนุ่มใหญ่โพสต์พร้อมให้ใช้ที่ดิน 7 ไร่สร้าง รพ.สนาม

ด้านนายธนบดี สหพรอุดมการ บุตรชายของนายสมยศ สหพรอุดมการ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ดินตรงนี้บิดาเป็นผู้ซื้อมาประมาณ 1 ปีเศษแล้ว ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โควิดระบาดรอบแรก ซึ่งแต่เดิมมีความตั้งใจจะซื้อไว้เพื่อสร้างห้องเช่า หรืออพาร์ตเมนต์ ต่อมาปรากฏว่าเกิดสถานการณ์โควิดระบาด (รอบแรก) จึงได้ระงับการก่อสร้างไว้ก่อน และเมื่อเกิดโควิดรอบ 2 นี้ บิดาเห็นว่าจังหวัดสมุทรสาครต้องการพื้นที่เพื่อทำเป็นโรงพยาบาลสนาม จึงได้บอกกับครอบครัวว่าจะช่วยจังหวัดด้วยการให้พื้นที่จัดสร้างโรงพยาบาลสนาม โดยทางครอบครัวก็ไม่มีใครขัดข้องและยินดีให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้จังหวัดสมุทรสาครผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปให้ได้

Advertisement

ขณะที่นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวด้วยว่า ทางจังหวัดสมุทรสาครขอขอบคุณผู้ที่ร่วมบริจาคที่ดินที่จะให้จังหวัดได้ใช้เพื่อดำเนินการเป็นศูนย์ห่วงใยคนสาคร แต่เนื่องด้วยมีข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งเรื่องเวลา ตัวอาคาร และอุปกรณ์สนาม เป็นต้น ดังนั้น ในขณะนี้จึงต้องเลือกสถานที่ที่ค่อนข้างจะมีความพร้อมในเรื่องของตัวอาคารเป็นหลักก่อน เพื่อนำมาปรับใช้ให้ทันต่อช่วงเวลาเร่งรีบ เนื่องจากปัจจุบันนี้เรามีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ทั้งนี้ ในส่วนของพื้นที่ที่ได้รับมอบนี้ ทางจังหวัดจะนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image