อยุธยาพบผู้ป่วยรายที่ 40 เป็นชายวัย 67 ปี อาชีพพนักงานโรงงาน ติดเชื้อไล่เลี่ยกับภรรยา
วันที่ 20 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.พีระ อารีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ รายที่ 40 เป็นชายไทย อายุ 67 ปี พักอาศัยกับภรรยา ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ รายที่ 39 อาศัยอยู่ในบ้านพักของโรงงานในหมู่ 11 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายที่ 40 ชายไทยวัย 67 ปี มีดังนี้
4 – 7 ม.ค. 2564
20.00 -08.00 น. ทำงานในช่วงกลางคืน เลิกงานกลับบ้านพักในโรงงานในหมู่ 11 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน
8 ม.ค.2564
08.00 น. เลิกงานในช่วงกลางคืน เลิกงานกลับบ้านพักในโรงงานในหมู่ 11 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน
15.00 น. เดินทางไปซื้อกับข้าวที่ตลาดเอกเซ็นเตอร์ ด้วยรถจักรยานยนต์ส่วนตัว โดยผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แล้วกลับบ้าน เจ้าของตลาดเอกเซ็นเตอร์ ได้ดำเนินทำความสะอาดในตลาด และกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด
9-14 ม.ค.2564
20.00-0.00 น. ทำงานในช่วงกลางคืน เลิกงานกลับบ้านพักในโรงงานในหมู่ 11 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน
15 ม.ค.2564
20.00 -08.00 น. ทำงานในช่วงกลางคืน เลิกงานกลับบนพักโรงงานในหมู่ 11 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน
16.00 น. เดินทางไปซื้อกับข้าวที่ตลาดเอกเซ็นเตอร์ ด้วยรถจักรยานยนต์ส่วนตัว โดยสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
16 ม.ค.2564
20.00 -08.00 น. ทำงานในช่วงกลางคืน เลิกงานกลับบ้านพักโรงงานในหมู่ 11 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน
17 ม.ค.2564
20.00 -08.00 น. ทำงานช่วงกลางคืน เลิกงานกลับบ้านพักในโรงงานในหมู่ 11 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน
10.30 น. รับแจ้งจากโรงพยาบาลบางปะอิน ให้ไปตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากพบว่าภรรยาติดเชื้อโควิด-19 ผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ รายที่ 39 หลังจากนั้นกลับมากักตัวที่บ้านพัก
18 ม.ค. 2564
ผลการตรวจ พบเชื้อโควิด – 19 (ไม่มีอาการ) เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลการุณยเวช อยุธยา
ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ประสานผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ทำความสะอาดในโรงงาน ที่พักคนงาน และตลาดพื้นที่ที่ผู้ป่วยเดินทางไปที่ปรากฏตามไทม์ไลน์ พร้อมกับค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมในชุมชน
สำหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาพบผู้ติดเชื้อ ในระลอกใหม่ แล้ว 40 ราย รักษาตัวหายแล้ว 32 ราย ยังคงมีผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่อีก 8 ราย ในส่วนของโรงงานที่ผู้ป่วยทำงานอยู่ได้ทำการตรวจหาผู้ป่วยเชิงรุกแล้ว
