‘สาธิต’ ชี้ชัด ‘มะตูม’ ไม่ใช่ซูเปอร์สเปรดเดอร์ แต่เป็นเพื่อนที่มาร่วมปาร์ตี้วันเกิด คาดเริ่มมาตรการผ่อนปรน 1 กพ. นี้
รายการโหนกระแสวันที่ 25 ม.ค. 64 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ “ดร.สาธิต ปิตุเตชะ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กรณีความสับสนในสังคมเกี่ยวกับ “ดีเจมะตูม เตชินท์ พลอยเพชร” หลังจากมีผู้ติดเชื้่อไปแล้ว 19 มีคนสัมผัสเสี่ยงสูงกว่า 100 รวมทั้งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจะมีผลยังไง
เรื่องดีเจมะตูม ตกลงตอนนี้ดีเจมะตูมด้รับเชื้อวันที่ 9 ในงานวันเกิด มีคนมาเซอร์ไพรส์ คุณแม่ก็อยู่ในงานแต่ไม่ติด ตอนนี้เกิดความสับสนในสังคม สรุปคนมีความเสี่ยงสูงมากในเคสดีเจมะตูมมีกี่ราย?
“ท่านอธิบดีกรมควบคุมโรครายงานผมเมื่อสักครู่ก่อนมา ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมีประมาณ 100 คน ตามได้หมดแล้ว 100 คนนี้ไม่ใช่เจอดีเจมะตูมอย่างเดียว ต้องเรียนว่า เหมือนไทม์ไลน์ที่หนุ่มเล่า จากสถานบันเทิงเชียงใหม่มาในงานวันเกิดมะตูม และในงานวันเกิดมะตูม ก็มีคนเข้าออกในงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ทราบว่าเท่าไหร่เพราะนับไม่ได้ แล้วมีผู้สัมผัสซึ่งตอนหลังมาติดเชื้อแล้วไปร่วมงานวันเกิดอีกงาน ซึ่งเป็นงานวันเกิดวันที่16 ม.ค. และมีคนร่วมงานจำนวนมาก ส่วนนี้มีคนติดแต่ละส่วนและไปสัมผัสส่วนต่างๆ ในไทม์ไลน์ของตัวเอง ที่เขาแยกไปเจอคนโน้นคนนี้ เราก็ควบคุม สอบสวนโรคและกักไว้ได้ประมาณ 100 กว่าคนแล้ว”
สรุปมีคนไปเที่ยวเชียงใหม่ ไปเที่ยวสถานบันเทิง หลังจากนั้นคนนั้นกลับมากรุงเทพฯ มาร่วมงานมะตูม ฉะนั้นมะตูมรับเชื้อจากคนนี้ คนในงานมะตูมตอนนี้ติดกี่คนแล้ว?
“ทั้งสองส่วนนี่ 19 ทั้งสองงาน คือวันที่ 9 และ 16 ติดมาแล้ว 19 คน”
วันที่ 9 งานวันเกิดมะตูม คนนี้ที่ไปรับเชื้อมาจากเชียงใหม่ และกลับมาปล่อยให้ในงานมะตูม หลังจากนั้นคนจากงานมะตูม ก็ไปอีกงานนึง คืองานวันที่ 16?
“คนไปงานวันที่ 16 เป็นคู่พี่น้อง จริงๆ ต้องเรียนว่าผมไม่ใช่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนควบคุมโรค แต่เขารายงานมาว่า ในส่วนนี้ มีคนไปร่วมซึ่งเป็นเพื่อนสนิทมะตูม ในงานวันเกิดวันที่ 9 และพี่น้องสองคนอยู่ใกล้ชิดกัน ปรากฎว่าคนน้องไปร่วมงานวันที่ 16 ซึ่งมีผู้จัดรายการช่อง 11 อยู่ด้วย ซึ่งคนน้องไม่ได้ไปงานมะตูม แต่ติดจากคนที่ไปงานมะตูม”
ฉะนั้นนี่คือความชัดเจนว่าผู้ประกาศข่าว NBT ไม่ได้ติดมาจากงานมะตูม แต่คนที่ไปร่วมงานมะตูม กลับมาบ้าน และเจอน้องตัวเอง น้องได้รับเชื้อและไปที่งานวันที่ 16 และไปเจอผู้ประกาศข่าวท่านนี้?
“ครับ เจออีกหลายคนครับ ความเสี่ยงสูงตอนนี้ 100 กว่าคนครับ แต่ติดมาแล้ว 19 ทีนี้จะบอกว่าเสี่ยงสูง เสี่ยงกลาง ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เขาจะไปดู เช่น บังเอิญหนุ่มติดเชื้อแล้วผมนั่งอยู่ตรงนี้ ถือว่าเสี่ยงสูง แต่ถ้ามีมาตรการป้องกันก็เสี่ยงกลาง แต่เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค พูดง่ายๆ ว่าเขาต้องปลอดภัยไว้ก่อน ก็เอาเสี่ยงกลางมากักไว้ด้วย และป้องกัน เดี๋ยวรอ 2-3 วันว่าพบเชื้อหรือไม่ เพราะการรับเชื้อต้องได้รับการฟักตัวอย่างน้อย 2-5 วัน”
กลุ่มคุณมะตูมเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์หรือยัง?
“เพื่อนคุณมะตูม เป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ครับ ไม่ใช่คุณมะตูม แต่คุณมะตูมมีชื่อเสียงเลยกลายเป็นประเด็นขึ้นมา ตรงนี้ก็เป็นข้อเตือนใจ ในช่วงเวลาอาจไม่ระวัง ในช่วงปีใหม่ ไปเที่ยวสถานบันเทิง บังเอิญช่วงนั้่นโรคโควิดอาจไม่ออกอาการ แล้วมาร่วมงานที่มีคนจำนวนมาก ถ้ามาแล้วป้องกันก็ช่วยในระดับหนึ่ง แต่ถ้าการ์ดตกไม่ป้องกันตัวเองก็ทำให้กระจายไปที่หลายๆ คนได้”
คนใกล้ชิดมะตูมไปตรวจมาแล้วยังไม่เจอ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เจอ?
“ถ้ากลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงต้องกักตัว ถ้าวงแรก เช่น คนใกล้ชิดมะตูม อยู่ในงานวันเกิด พูดคุยกัน ถ้าได้ข้อมูลว่าพูดคุยกันสักระยะแล้วไม่ใส่หน้ากาก ถึงแม้ตรวจไม่พบต้องกักตัว 14 วัน ขณะเดียวกัน อีกคนไม่ได้ใกล้ชิด แต่อยู่ในงานด้วย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ แต่อยู่วงรอบ พูดง่ายๆ สัมผัสกับผู้สัมผัสคุณมะตูม แล้วยังเป็นลบอยู่ อันนี้อาจไม่ต้องกักตัว เป็นวงที่สอง”
ถ้ามะตูมรับเชื้อวันที่ 9 แล้วไม่เคยรู้ตัวเลยจนวันที่ 19 สิบวันที่ผ่านมามะตูมอยู่ในบ้านตลอด ออกมาอีกทีวันที่ 18 คนเจอมะตูม 18 กับ 19 อย่างอ.ยิ่งศักดิ์, แต้ว ณฐพร, ดีเจพีเคเจอวันที่ 19 คนเหล่านี้ถือว่าความเสี่ยงสูง?
“ความเสี่้ยงสูงเหมือนกัน โดยเชื้อของมันอยู่ 2-7 วัน ขณะเดียวกันถ้านับวันที่ 9 เราไม่รู้ว่าเขารับเชื้่อมาวันไหนกันแน่ แต่ประมาณว่าวันที่ 9 จนถึง 19 ก็ถือว่า 10 วัน 10 วันก็ถือว่ามีความเสี่ยง ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับมะตูมก็ถือว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงวงแรก ที่ต้องกักตัว แต่สมมติอย่างอ.ยิ่งศักดิ์ ผมก็ไปเจอวันที่ 21 อ.ยิ่งศักดิ์อยู่วงหนึ่ง ผมก็ให้เจ้าหน้าที่ไปสอบสวนโรคแล้ว อ.ยิ่งศักดิ์เป็นลบ ถ้าอ.ยิ่งศักดิ์เป็นลบ ผมเป็นวงสอง ถือว่าไม่เสี่ยง”
แล้วผมจะเป็นวงสามมั้ย?
“อันนี้ถือว่าไม่เสี่ยงแล้วครับ (หัวเราะ)”
ตร.นายนึงก็อยู่ในงานวันเกิดคุณมะตูม ก็ต้องไปไล่ไทม์ไลน์?
“ไล่เรียบร้อย มีมาตรการเรียบร้อย ตรวจคนใกล้ชิดแล้ว รอฟังผล ปิดสำนักงานอะไรสักอย่างอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปิดแล้วก็ล้าง เอาคนใกล้ชิดไปกักและรอตรวจ”
กรณีวัคซีน ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว เห็นบอกว่าจะมา 5 หมื่นโดสเป็นของอะไร?
“ล็อตแรกเป็นล็อตพิเศษจากแอสตร้าเซนเนก้า คือวัคซีนขณะนี้ประเทศไทยทำสัญญาแค่ 2 บริษัท ส่วนใหญ่แอสตร้าเซนเนก้ากับซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า รวมเบ็ดเสร็จประมาณ 70 ล้านโดส ประมาณสัก 35 ล้านคน หนึ่งคนต้องฉีด 2 โดส ขณะนี้ที่เขามีการวิจัย โดสแรกกับโดสที่สอง 4-10 สัปดาห์”
เพราะฉะนั้นฉีดเข็มแรก ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ติดเลย คุณจะไปเดินลั้ลลาไม่ได้?
“ถูกต้องครับ ข้อมูลทางการวิจัย เวลาฉีดเข็มแรกจะค่อยๆ มีภูมิกระตุ้นขึ้นมาเรื่อยๆ มีการวิจัยของไฟเซอร์มั้ง ที่ฉีดไปแล้วพบว่ามีผู้ติดเชื้อ แต่ข้อดีคือถึงติดเชื้อแต่จะไม่มีอาการรุนแรงเลย 100 เปอร์เซ็นต์ ในุทกยี่ห้อที่ปรากฎอยู่ในขณะนั้น”
อัตราความเสี่ยง ไม่มีคนไทยคนไหนลองฉีดเลย?
“มีคนไทยที่ต่างประเทศ อย่างเช่น คุณดอน ธีระธาดา ลองฉีดไฟเซอร์ แต่คนไทยที่ประเทศอื่น ผมไม่แน่ใจว่าได้ลองใช้ของแอสตร้าเซนเนก้าหรือยัง แต่เรียนว่าผลกระทบหรือเอฟเฟกต์ที่เขาทดลองมา ถึงแม้ไม่ได้ทดลองครบตามหลักการวิชาการก็ดี แต่เท่าที่ทดลองมา ก็ยังไม่มีผลกระทบรุนแรงถึงขนาดเป็นผู้เสียชีวิต แต่เขาก็มีไกด์ไลน์มาว่า มีผลกระทบเช่น อาการไข้ครั่นเนื้อครั่นตัว มีการจุกเสียด ตรงนี้อยู่ใน 30 นาทีแรกจะบ่งบอกอาการมา”
ฉีดไปปุ๊บให้ดู 30 นาที ถ้ามีอาการมันจะออกเลย?
“ออกเลยครับ”
อย่างที่เคยดูของต่างประเทศ ฉีดไปวันหรือสองวัน แล้วเสียชีวิต 20 กว่าคน?
“นอร์เวย์ ที่มีผู้สูงอายุเสียชีวิต 23 คนจากบริษัทไฟเซอร์ ตรงนี้ต้องเรียนว่ายังไม่มีข้อมูลสนับสนุนว่าเขาตายเพราะวัคซีนที่ฉีด แต่เขาอาจมีโรคหรือเอฟเฟกต์บางส่วน แต่วัคซีนไม่ได้ทำให้เขาตาย รัฐบาลเขาก็เดินหน้าฉีดวัคซีนต่อ ต้องไปรอดูผลการพิสูจน์หลักฐานว่าที่เขาเสียชีวิตจริงๆ สาเหตุเป็นเพราะอะไร แต่เขายังไม่ได้ฟันธงว่าเป็นเพราะวัคซีนที่ฉีดไป”
วัคซีนที่มา 5 หมื่นโดสแรก วางไว้หรือยังว่าจะฉีดให้ใคร?
“ขณะนี้มีมาตรการจัดหาและกระจายวัคซีน วันนี้เพิ่งประชุมที่กระทรวง จะมีคณะกรรมการกระจายวัคซีน โดยสรุปคือต้องฉีดในกลุ่มเสี่ยงกับพื้นที่เสี่ยง กลุ่มเสี่ยงคือบุคลากรทางแพทย์ หรือกลุ่มอยู่หน้าด่านสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ มีความเสี่ยง สองกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว วันนี้ก็เสนอว่าสมาคมผู้ปลูกถ่ายอวัยวะ คนที่เปลี่ยนไต เปลี่ยนปอด เปลี่ยนหัวใจ กลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มเสี่ยงด้วย”
แล้วจะประเมินยังไง บางคนมีปัญหาเรื่องปอด หัวใจ บังเอิญฉีดเข้าไปจะมีผลกับเขาหรือเปล่า?
“โดยหลัก เขาว่า 1 ล้านคน จะมีเอฟเฟกต์สัก 2-3 คน สมมติฉีดหรือไม่ฉีด อยู่ที่ความสมัครใจนะ วัคซีนมาก็ไม่ใช่ทุกคนได้ฉีด การแบ่งกลุ่มก็เป็นการบริหารจัดการ วัคซีนไม่ได้มาทั้ง 70 ล้านโดสทีเดียว ต้องทยอยมาเพราะค่อยๆ ผลิต สองมาเยอะก็ฉีดทีเดียวไม่ได้ สมมติคนอยู่อุบลฯ หรือตราด มีคณะกรรมการต้องจัดการอีกว่าจะกระจายไปที่ไหน ใครจะต้องเป็นคนฉีดเจ้าหน้าที่พยาบาล ฉะนั้นต้องมีการลงทะเบียนก่อนในการฉีดวัคซีนให้กับทุกคน ซึ่งต้องเรียงไปตามความสำคัญของกลุ่มเสี่ยงและพื้นที่เสี่ยงตามจำนวนวัคซีนที่มา ไม่ใช่เราทำได้เสร็จภายในวันเดียว ต้องลงทะเบียนเสร็จ สถานีอนามัยที่นี่รับลงทะเบียนไว้ ตัดไปสองกลุ่ม ก็เหลือประมาณ 50 – 60 ล้านคน เราสามารถกระจายไป และลงทะเบียนฉีดตามสปสช และสถานีอนามัยที่อยู่ทั่วประเทศ บางสถานีอนามัยมีคนเยอะก็ต้องไปลงทะเบียนแล้วค่อยๆ ทยอยฉีดตามกลุ่มต่างๆ”
ฟรีหรือเปล่า?
“ฟรีสิครับ รัฐบาลมีหน้าที่เอาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย มาให้คนไทยทุกคนฟรี”
เพียงพอ 70 ล้านคน?
“เพียงพอ 50 ล้านคน อีก 20 ล้านคนเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องฉีด คือต้องเข้าใจว่าการบริหารเรื่องวัคซีน รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข ทำด้วยความรอบคอบและโปร่งใส ไม่ได้หมายความว่าการจัดการวัคซีน มีเงินมากแล้วไปซื้อจองได้ทั้งหมด วันนี้มีเงินก็ซื้อไม่ได้นะ เพราะวันนี้ความต้องการวัคซีนมันเยอะ คุณต้องไปเข้าคิวเป็นปี เว้นแต่คุณมีสายสัมพันธ์กับบริษัทผลิตวัคซีน หรืออย่างบริษัทนั้นเป็นของประเทศจีน เขาก็จัดสรรให้ได้ก่อน หรือไฟเซอร์เป็นสัญชาติอเมริกัน เขาก็คุยกันได้ก่อน กรณีองค์การอนามัย มีโครงการเอาเงินจากคนใจบุญทั่วโลกเพื่อนำวัคซีนให้ประเทศจนๆ อย่างเอธิโอเปีย เขาก็จัดสรรตามจำนวนที่เขาสามารถทำได้ การจัดสรรวัคซีน เป็นเรื่องการบริหารจัดการที่เขาทำเป็นระบบ”
การบริหารจัดการที่ฉีดฟรีให้ประชาชนคนไทย 50 ล้านคนเข้ารพ.แล้วฉีดได้เลย?
“ใช่ครับ ต้องมีการลงทะเบียน เดี๋ยวจะให้ลงทะเบียนแล้ว ลงทะเบียนเสร็จก็มีการจัดการ แบ่งคน แบ่งทีม ใครฉีดได้ให้กระจายไปที่นั่นอย่างไร พอลงทะเบียน มีวัคซีนปั๊บ ก็ไปพื้นที่ที่จองไว้และดำเนินการฉีด พอฉีดก็ต้องมีพื้นที่เพื่อรอดูอาการ ไม่ใช่ฉีดแล้วกลับบ้านเลย เผื่อมีเอฟเฟกต์ปั๊บจะได้เข้ารพ.เลย ดังนั้นฉีดก็ต้องมีการอบรม เน้นเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ซึ่งประสิทธิภาพจะแตกต่างกันไปแต่ละบริษัท แต่ย้ำว่าทุกบริษัทที่ผลิตวัคซีน ทุกขั้นตอนดำเนินการ เขาจะเป็นไปตามมาตรการประเทศเขาเองและมาตรการระหว่างประเทศ”
70 ล้านคน ฉีดไป 50 ล้าน อีก 20 ล้านคือกลุ่มไหน?
“แบ่งเป็น 3 กลุ่มอย่างนี้ เด็กที่ต่ำกว่า 18 ลงมา เนื่องจากว่าแอสตร้าเซนเนก้า เขาไม่ได้ไปทดลองมีผลวิจัยกับเด็กกลุ่มนี้ เมื่อไม่มีการทดลองกับเด็กกลุ่มนี้ก็ไม่สมควรฉีดกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ในประเทศเรา อีกกลุ่มคือหญิงตั้งครรภ์ คนติดเชื้่อโควิดไปแล้วก็ไม่ต้องฉีดอีก เพราะมีภูมต้านทานไปแล้ว คนสมัครใจไม่ฉีดอีก ดังนั้นก็อยู่ในกลุ่มการจัดการตรงนี้”
บางคนไปลงทะเบียนไม่ได้ เราทำยังไง?
“ทุกคนมีสิทธิ์ลงทะเบียน เราจะประกาศจุดสำหรับฉีดวัคซีนให้ ทั่วประเทศมีเป็นหมื่นจุดเพื่อให้ไปเข้าคิว ไปจองคิวฉีดวัคซีน วัคซีนไม่ได้มาครั้งเดียว มันจะทยอยๆ มา ขึ้นอยู่ที่ว่าใครลงทะเบียนก่อนก็ได้ฉีดก่อน ฉีดหลัง รันตามคิว”
ต่อไปในอนาคต ถ้าวัคซีนพัฒนาตัวเอง ทดลองมาแล้วฉีดให้เด็กได้ ก็จะให้มีการฉีดได้?
“ฉีดได้ถ้ามีรายงานหรือทดลองแล้ว ปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีปัญหาก็ฉีดได้ ขึ้นอยู่กับการรายงานการดำเนินการของวัคซีนยี่ห้อนั้นๆ”
ท่านบอกว่าแต่ละยี่ห้อประสิทธิภาพต่างกันไป มันต่างกันยังไง?
“ต่างกันที่ตัวเทคโนโลยี พูดง่ายๆ ผมไม่ได้เป็นนักวิชาการ มีสองส่วน ตัวไวรัสที่ตายแล้วไปทำเป็นวัคซีนฉีดเข้าที่้ร่างกายของคน และใช้โปรตีนเป็นไวรัสฉีดในคนเหมือนกัน ให้มีภูมิต้านทานขึ้นมา ในโลกมี 2-3 เทคโนโลยี”
แต่ที่แน่ๆ เอาซากไวรัสที่ตายไปทำเป็นวัคซีนฉีดเข้าไป อีกอันทำเป็นโปรตีนหลอกร่างกายตัวเองให้สร้างภูมิขึ้นมา?
“ปกติร่างกายเวลาเชื้่อโรคเข้ากาย เราจะมีภูมิสู้เชื้อโรคเหล่านี้ ถ้าสู้ชนะไม่ป่วย แต่ถ้าแพ้ก็ป่วย วัคซีนที่ฉีดเข้าไปร่างกายจะกระตุ้นขึ้นมา มันจะเห็นว่ามีศัตรูมาแล้วนะ เหมือนเม็ดเลือดขาวจะผลิตภูมิที่จะมาต่อสู้”
ของเราเป็นแบบไหนแอสตร้าเซนเนก้า?
“โปรตีนหลอกร่างกายให้สร้างภูมิขึ้นมา”
กรณีนี้ถ้ารพ.อื่นๆ ที่ไม่ใช่รัฐบาล ของเอกชน เขาสั่งมาได้มั้ย?
“รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น แต่มีนโยบายหลักๆ ว่าต้องปลอดภัย ถ้าบริษัทเอกชนไปคุยกับผู้ผลิตวัคซีนทั่วโลก ก็แค่นำตัวอย่างมาให้อย.ดูว่าปลอดภัย เราก็จะสามารถให้เข้าไปฉีดกับประชาชนได้ แต่เขาจะไปค้ากำไรก็เป็นเรื่องของเขา ซึ่งที่เราทำเราฉีดให้ประชาชนทุกคนฟรี”
ไข้หวัดใหญ่ต้องฉีดทุกปี แล้วอันนี้ต้องฉีดทุกปีมั้ย 2 โดสแรกฟรี แล้วครั้งต่อไป มันจะอยู่กับเราได้ตลอดมั้ย?
“การสู้กับโคโรน่า ไม่ใช่วัคซีนมาแล้วทุกอย่างจบลงทันที การฉีดวัคซีนจบที่ตัวเรา เราไม่เป็น แต่โรคระบาดอยู่รอบตัวเรา ฉะนั้นวัคซีนคือเครื่องมือในการชะลอการติดเชื้่อ และเราก็ต้องทำมาตรการตัวเอง และเดินหน้าไปพร้อมกัน เพียงแต่ว่าถ้าเราเดินหน้ามีประสิทธิภาพพร้อมกัน เราจะสู้กับมันภายในระยะเวลาที่สั้นลง อย่างเราฉีดวัคซีนใน 1 ปี มาตรการเดินหน้าไปด้วย เราก็จะเสร็จสิ้น 1 ปี ขณะที่เราเสร็จ เราก็ต้องดูด้วยว่าประเทศอื่นเขาเสร็จแล้วด้วยหรือยัง เพราะโรคระบาดอาจเดินทางมาก็ได้ แต่อย่างน้อยพอฉีดวัคซีนไปจำนวนมากแล้ว คนติดก็จะมีจำนวนน้อยลง เพราะเขามีภูมิไปหมดแล้ว มันก็ค่อยๆ น้อยลง ยกตัวอย่างก็คล้ายอ่างน้ำในบ่อปลา ถ่ายน้ำเสียไป ก็คงไม่สามารถทำได้ครั้งเดียว”
ถ้าต้องฉีดอีก รัฐจะดูแลให้อีกมั้ย?
“ต่อไปเนี่ย โรคนี้อาจเป็นโรคประจำถิ่น เป็นได้แต่อาการไม่รุนแรง เหมือนไข้หวัดใหญ่ ไม่มีการเสียชีวิต อย่างแอสตร้าเซนนกาก้า มีความชัดเจนว่าถ้าสมมติฉีดในระยะเวลาที่ห่างกัน คนร้อยคน 30 ยังติดอยู่ แต่ 30 คนที่ติดอาการจะไม่รุนแรง พอไล่ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ไม่ต้องไปกลัวแล้ว โควิด-19 ก็จะเหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่ต้องทำให้จบไปด้วยกัน”
เรียกว่าดูกันปีต่อปี?
“ผมมั่นใจถ้าเราทำดีๆ เราอาจสู้เสร็จภายใน 1 ปี และอาจรับคนที่ฉีดในต่างประเทศ อู่ฮั่นฉีดครบ เอาอู่ฮั่นมาเที่ยวประเทศไทย หรือประเทศอื่นเห็นว่าไทยฉีดครบแล้ว ก็เอาไปเที่ยวประเทศเขา ก็ค่อยๆ ฟื้นเศรษฐกิจ”
ขอถามถึงอาการท่านผู้ว่าฯ สมุทรสาคร?
“ยังไม่ได้ทราบแน่นอน เห็นว่าทรงๆ อยู่ ขอให้ติดตามจากท่านผอ.รพ.ศิริราช ดูอาการเป็นวันๆ ไป แต่ยังทรงตัวอยู่”
ล่าสุดทนายตั้มเดินทางไปมุกดาหาร เขาบอกว่าเขาถูกกักตัว ทำไมอัจฉริยะไม่ถูกกัก มองยังไง?
“อธิบายง่ายๆ สั้นๆ ว่า การเดินทางจากจังหวัดเป็นสีแดงเข้ม โดยหลักการอยู่ที่การประกาศจากจังหวัดนั้น ว่าถ้าใครเดินทางมาจาก 5 จังหวัดควบคุมสูงสุดเข้มงวด ต้องไปดำเนินการอย่างไร เช่น เชียงใหม่ โคราช เขาประกาศว่าใครมาจากจังหวัดเหล่านี้ต้องกักตัว 14 วัน แต่ไปดูประกาศอีกที ถ้าใครพักโรงแรม ประกาศจังหวัดบอกว่าให้เจ้าของโรงแรมเป็นผู้จัดการกักตัวผู้พักโรงแรมเอง มันแตกต่างกันเหมือนกับที่จังหวัดใดจังหวัดนั้นประกาศ”
เอาง่ายๆ ทนายตั้มมาจากสมุทรสาคร พื้นที่เสี่ยงสูงสุดและเข้มงวด คนออกจากพื้นที่นี้ ไปมุกดาหาร หรือสกลนคร ซึ่งเขามีกฎของเขา ว่าถ้าคนมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดง ต้องกักตัว 14 วัน เป็นไปตามพ่อเมืองบอกไว้ แต่ละจังหวัดมีมาตรการไม่เหมือนกัน อยู่ที่จังหวัดเขามีมาตรการยังไง ในการกักตัว อย่างคุณอัจฉริยะมาจากสมุทรปราการ เป็นสีแดงธรรมดา ทางจังหวัดเลยบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องกัก กลับไปได้ ก็เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้กันด้วย อย่างอยู่กรุงเทพฯ ไปชลบุรี กลับมาต้องกักตัวหรือเปล่า?
“ถูกต้องครับ”
อยากฝากบอกอะไรถึงคนไทยเรื่องวัคซีน?
“รัฐบาลมีหน้าที่เอาวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การจัดซื้อวัคซีนผมย้ำนะครับ ว่ามีความรอบคอบ โปร่งใส เพื่อเป้าหมายฉีดให้ทุกคนฟรี และมีการจัดการเป็นระบบ ขอให้คนไทยทุกคนติดตาม และย้ำอีกว่าวัคซีนเป็นเครื่องมือเครื่องมือเดียว ไม่ได้หมายความว่ามีวัคซีนแล้วโควิดจะหายไปจากประเทศไทย ขอให้พวกเราได้เดินหน้ามาตรการป้องกันตามคำแนะนำกระทรวงสาธารณสุข และเดินหน้าฉีดวัคซีน เพื่อให้เราเอาชนะโดยเร็ว”
ช่วงนี้คุมอยู่หรือยังในไทย?
“แถลงไปวันเสาร์ว่าในเขตภาคตะวันออก ไม่รวมสมุทรสาคร เราไม่ได้คุมอยู่ด้วยตัวเลขติดเชื้อน้อย แต่เราสามารถพบผู้ติดเชื้อที่ไหน สามารถตามไปสอบสวนได้ใน 48 ชม. เรามั่นใจ ส่วนมาตรการจะค่อยๆ ผ่อนปรนตั้งแต่วันที่ 1 กพ. นี้เป็นต้นไป ศุกร์นี้จะประชุมศบค.ใหญ่”
โรงเรียนจะเปิดหรือยัง?
“ประมาณ 1 กพ.”
สถานบันเทิง?
“วันศุกร์นี้ ถ้าที่ประชุมศบค.เห็นชอบลดจากสีแดงเป็นสีส้ม ถ้าสีส้ม ผับเปิดได้แต่ปิดสี่ทุ่ม แต่เปิดได้ภายใต้มาตรการเข้มข้น ยกเว้นสิ่งผิดกฎหมาย อย่างบ่อนนี่ไม่ได้อยู่แล้ว”