‘หมอยง’ ชี้ปม ‘โควิดวัคซีนพาสปอร์ต’ มอง ภูเก็ต-เกาะสมุย ต้นแบบน่าสนใจ ปูพรมฉีด กระตุ้นท่องเที่ยว

‘หมอยง’ ชี้ปม ‘โควิดวัคซีนพาสปอร์ต’ มอง ภูเก็ต-เกาะสมุย ต้นแบบน่าสนใจ ปูพรมฉีด กระตุ้นท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เกี่ยวกับประเด็น “โควิดวัคซีนพาสปอร์ต” โดยระบุว่า

สถานการณ์ของโรค ขณะนี้ค่อนข้างคงที่ และมีการใช้วัคซีนไปแล้วประมาณ 300 ล้านโดส อิสราเอลเป็นประเทศที่ฉีดวัคซีนต่อประชากรมากที่สุด โดยใช้วัคซีน Pfizer ที่มีประสิทธิภาพสูง ประเทศอิสราเอลเอง ใครที่ฉีดวัคซีนครบ จะมีบัตรเขียว และได้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นกว่าคนที่ไม่ได้ฉีด เช่น เข้ากินอาหารในร้านได้ เข้าชมในโรงภาพยนตร์ และสิทธิอื่น ๆ มากกว่าที่เกี่ยวกับการป้องกันโรค ประเทศ UAE เป็นประเทศที่ฉีดวัคซีนมากเป็นอันดับสอง ใช้วัคซีนหลักของจีน ขณะนี้ก็เปิดน่านฟ้าการบินได้มากขึ้น

แนวโน้มทั่วโลก จะมีการนำเอาวัคซีนพาสปอร์ต มาใช้ เพื่อเพิ่มสิทธิการเดินทางให้เศรษฐกิจต่าง ๆ ได้ฟื้นตัวขึ้นมา การทำงานในโรงงาน ก็อาจจะต้องมีพาสปอร์ต ของคนงาน หรือการเข้าไปดูงาน

ประเทศไทย มีข้อกำหนดวัคซีนพาสปอร์ต เพื่อกระตุ้นภาคการเดินทางท่องเที่ยว แต่สิ่งที่ยังไม่ได้กล่าวถึง (ได้ข้อคิดจากอาจารย์ผู้ใหญ่) คือการเดินทาง ผู้ใหญ่มากับลูกที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จะแก้ปัญหาการกักตัวอย่างไร ในเมื่อ พ่อ และแม่ฉีดวัคซีนแล้ว ลูกอายุไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับวัคซีน จะแยกลูกแยกพ่อแม่ก็ไม่ได้ โดยทั่วไปจากข้อมูลทางวิชาการปัจจุบัน เด็กแพร่โรคได้น้อยกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก เพราะมีการดูแลและการติดโรคที่เกิดขึ้น จะเป็นผู้ใหญ่เอาไปให้เด็ก มากกว่าเด็กเอาไปให้ผู้ใหญ่ ยกเว้นเด็กวัยรุ่น

Advertisement

เรื่องของสัญชาติก็เช่นเดียวกัน ถ้าถือพาสปอร์ตของแอฟริกา แต่อยู่อเมริกา และได้ฉีดวัคซีนมาครบแล้ว จะมีมาตรการการกักตัวแบบแอฟริกาหรือไม่

กฎเกณฑ์ต่าง ๆ คงจะต้องมีข้อกำหนดให้ละเอียดเพิ่มขึ้นชัดเจน

ถ้าภูเก็ต เกาะสมุย ได้ให้วัคซีนกับประชากรหมู่มาก ทั้งเกาะ การเดินทางเข้าด้วยวัคซีนพาสปอร์ต จะเป็นต้นแบบที่น่าสนใจ และกระตุ้นภาคท่องเที่ยวได้เร็วยิ่งขึ้น ในการที่จะให้เกาะ มีภูมิต้านทานกลุ่มเกิดขึ้น

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image