กทม. เผยไทม์ไลน์โควิดอีก 20 ราย มีผู้ค้า-ผู้ชุมนุมหน้ายูเอ็น-ชายอเมริกันเที่ยวไทยกลับไปพบเชื้อ

กทม. เผยไทม์ไลน์โควิดอีก 20 ราย พบมีผู้ค้า-ผู้ชุมนุมหน้ายูเอ็น-ชายอเมริกันเที่ยวไทยกลับไปพบเชื้อ

วันที่ 11 มีนาคม สำนักงานประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งมีการรวบรวมตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.- 11 มี.ค. ว่าพบผู้ป่วยรวม 1,006 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยไทม์ไลน์ไปแล้ว 946 รายนั้น

ล่าสุด ทาง กทม. ได้เปิดเผยไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน กทม. ที่มีการสอบสวนโรคแล้วเสร็จเพิ่มอีก 20 ราย คือผู้ติดเชื้อรายที่ 947-966

ทั้งนี้ การแจ้งข้อมูลการสอบสวนโรค จะรายงานข้อมูลที่ไม่พาดพิงถึงบุคคลก่อนที่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 10

โดยผู้ป่วยรายที่น่าสนใจ เช่น ผู้ป่วยรายที่ 951 เป็นผู้ป่วยชาย สัญชาติอเมริกัน เดินทางมาจากสหรัฐ ช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคม และเข้ารับการตรวจโควิด-19 ถึง 2 ครั้ง แต่ไม่พบเชื้อ จากนั้นพักอาศัยอยู่ที่พักย่านสีลม บางรัก ไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ เดินทางไป จ.ภูเก็ต โดยสายการบินแอร์เอเชีย และเข้าพักที่โรงแรมศรีพันวา ไม่ได้ออกไปไหน

Advertisement

ต่อมา วันที่ 1 มี.ค. ตรวจหาเชื้อเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศ จากนั้นวันที่ 2 มี.ค. ช่วงกลางวัน ทราบผลว่าติดเชื้อ จึงเดินทางไปตรวจครั้งที่ 2 ผลตรวจไม่พบเชื้อ จากนั้นวันที่ 3 มี.ค. จึงเดินทางกลับประเทศ และวันที่ 4 มี.ค. ระบุว่า เนื่องจากผลตรวจไม่ชัดเจน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงนำตัวอย่างจาก รพ. ตรวจซ้ำอีกครั้ง และทราบผลว่าพบเชื้อ

ด้านผู้ป่วยรายที่ 960 เป็นผู้ป่วยหญิง อาชีพพนักงานโรงแรม เดินทางมาทำงานด้วยรถสองแถว ก่อนเริ่มมีอาการไข้ในวันที่ 27 ก.พ. จากนั้นวันที่ 28 ก.พ. ไปร่วมชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน หน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) กับเพื่อน ในวันที่ 28 ก.พ.2564 โดยรถแท็กซี่ กระทั่งเข้ารับการตรวจหาเชื้อแบบเชิงรุกในวันที่ 3 มี.ค. และทราบพบติดเชื้อโควิด-19 ในวันถัดมา

ขณะที่ผู้ป่วยชายรายที่ 961 นั้น จากประวัติพบว่าเดินมาทำงานที่โรงงานแขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ จากนั้นไปร่วมชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน หน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) กับเพื่อน ในวันที่ 28 ก.พ.2564 โดยรถแท็กซี่ ก่อนเข้ารับการตรวจหาเชื้อเชิงรุกที่โรงงานและทราบผลการติดเชื้อ

สำหรับไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายอื่นๆ มีดังนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image