ผู้สูงอายุชาวสมุทรสาคร เข้ารับวัคซีน ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ คุณตาวัย 90 เชื่อมั่นปลอดภัย ไร้ความกลัว

หลังจาก จ.สมุทรสาคร ได้รับการจัดสรรวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ล็อตแรก จำนวน 10,000 โดส โดยได้จัดสรรให้กับโรงพยาบาลสมุทรสาคร 5,000 โดส โรงพยาบาลกระทุ่มแบน 3,000 โดส และโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) 2,000 โดส ซึ่งทางโรงพยาบาลกระทุ่มแบน กับ โรงพยาบาลบ้านแพ้วฯ ได้เริ่มฉีดเข็มแรกไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 ส่วนโรงพยาบาลสมุทรสาครได้เริ่มฉีดเข็มแรกไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมานั้น

บรรยากาศวันนี้ (21 มีนาคม) ในส่วนความรับผิดชอบของโรงพยาบาลสมุทรสาคร มีสถานพยาบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับอนุญาตให้เป็นจุดบริการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ทั้งหมด 4 จุดด้วยกัน

ประกอบด้วย 1.โรงพยาบาลสมุทรสาคร 2.โรงพยาบาลนครท่าฉลอม 3.โรงพยาบาลวัดเกตุมฯ และ 4.อบต.ท่าทราย โดยแต่ละจุดมีผู้สูงอายุที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว มารับบริการฉีดวัคซีนกันอย่างต่อเนื่อง

ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร มีคุณตาวัย 90 ปี มาเข้ารับการฉีดวัคซีนด้วย โดยผู้สูงอายุท่านนี้คือ จ.ต.เพิ่ม พลายแก้ว เกิดเมื่อ พ.ศ.2474 อดีตพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย เคยทำหน้าที่ขับรถไฟสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ เป็นคนในพื้นที่ตำบลมหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร สุขภาพร่างกายยังแข็งแรง ความจำดีเยี่ยม

Advertisement

ส่วนการตัดสินใจมารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แอสตร้าเซนเนก้า คุณตาเพิ่มบอกว่า ไม่เคยกลัวการฉีดวัคซีนเลย เพราะเชื่อมั่นว่าต้องปลอดภัย ตนเองอยากจะฉีดเพื่อป้องกันโรคโควิด

ขณะที่บุตรสาวของคุณตาเพิ่มที่เป็นผู้พาคุณพ่อมาฉีดวัคซีนก็บอกว่า ก่อนหน้านี้ได้คุยกับพ่อว่าอยากจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิดไหม พ่อเป็นคนบอกเองว่าอยากจะฉีดวัคซีน และไม่กลัวด้วย เนื่องจากเชื่อมั่นในความปลอดภัย รุ่นนี้แล้วอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ดังนั้น ทางครอบครัวจึงเห็นตามความต้องการของคุณพ่อ จึงพาท่านมาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร และคนอื่นๆ ในครอบครัวก็ฉีดแล้วเช่นกัน

Advertisement

ด้าน นายแพทย์โมลี วนิชสุวรรณ อดีต ผอ.รพ.สมุทรสาคร หนึ่งในผู้สูงอายุที่มาเข้ารับบริการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า บอกว่า จ.สมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 สูงสุด จึงได้รับการจัดสรรวัคซีนมาให้มากที่สุด เพื่อการป้องกันและควบคุมโรค ทั้งนี้ ตอนแรกก็รู้สึกกลัวอยู่บ้างเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนชนิดนี้ แต่ด้วยความเป็นหมอ จึงต้องศึกษารายละเอียด ข้อมูล และความจำเพาะของวัคซีน จนเชื่อมั่นว่าวัคซีนทั้ง 2 ชนิดที่ประเทศไทยนำมาฉีดให้กับกลุ่มคนอายุระหว่าง 18-59 ปี กับกลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไปนั้นมีความปลอดภัย

นพ.โมลีกล่าวว่า ส่วนที่หลายคนรู้สึกหวาดกลัว ไม่กล้าฉีด อาจมาจากการเสพข่าวเฉพาะในด้านลบเกี่ยวกับวัคซีนมากจนเกินไป ซึ่งบางครั้งอาจมีทั้งความจริงและความไม่จริง แต่ความจริงตอนนี้ที่ปรากฏคือ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไม่มีอันตรายต่อผู้ฉีด โดยทางองค์การอนามัยโลกได้ให้การรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขอให้ผู้สูงอายุมาเข้ารับบริการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

ขณะที่บรรยากาศของการฉีดวัคซีน ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งนับเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แห่งเดียวของจังหวัดที่เปิดให้บริการนอกสถานพยาบาลนั้น พบว่า ผู้สูงอายุตื่นตัวมาเข้ารับบริการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง

โดยผู้สูงอายุที่มาเข้ารับบริการต่างบอกว่า ฉีดวัคซีนแล้วรู้สึกปกติดี ปลอดภัย ไม่มีความผิดปกติใดๆ ซึ่งการฉีดวัคซีนก็ทำให้เกิดความมั่นใจขึ้น จะไปไหนก็สบายใจขึ้น ส่วนตัวหลังฉีดวัคซีนแล้วก็ต้องเตรียมพร้อมการป้องกันตนเองเหมือนเดิม ไม่ใช่ฉีดวัคซีนแล้วจะปล่อยปละละเลยในการสวมหน้ากาก ยังคงต้องล้างมือให้บ่อยครั้งและสวมหน้ากากตลอดเวลา

สำหรับปฏิบัติการฉีดวัคซีนโควิด-19 เชิงรุกให้กับคนไทยในพื้นที่ จ.สมุทรสาครนั้น ในส่วนของวัคซีนซิโนแวค ที่ฉีดให้กับผู้ที่มีอายุ 18-59 ปี และกลุ่มเสี่ยง โดยเป้าหมายสำหรับวัคซีนล็อตแรกจำนวน 35,000 คน ได้ดำเนินการฉีดครบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วตามแผนที่วางไว้ และจะเริ่มฉีดเข็มที่ 2 ในวันจันทร์ที่ 22 มีนาคมนี้เป็นต้นไป

ส่วนวัคซีนล็อตที่ 2 จะมาในวันที่ 27 มีนาคมนี้ และจะเริ่มฉีดให้กับผู้ที่ลงทะเบียนไว้ตามลำดับต่อไป ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ซึ่งผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวค หลังจากฉีดเข็มแรกไปแล้ว จะต้องเว้นระยะห่างราว 3-4 สัปดาห์ จึงจะเข้ารับการฉีดในเข็มที่ 2

ขณะที่วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ล็อตแรก ตั้งเป้าการฉีดไว้ที่ 10,000 คน ใน 3 อำเภอ โดยจะฉีดเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น อีกทั้งจะต้องให้แล้วเสร็จภายในช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายนนี้ ส่วนผู้สูงอายุที่รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรกไปแล้ว จะต้องเว้นระยะห่างอีก 10 สัปดาห์ จึงจะเข้ารับการฉีดเข็มที่ 2

ด้าน นพ.ศุภศรัณย์ ศุภพัฒนพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ได้ให้คำแนะนำว่า จากการวิจัยแล้วพบว่าวัคซีนทั้ง 2 ชนิดมีความปลอดภัย แต่สิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้ง 2 ชนิดที่พึงกระทำเหมือนกันคือ การเข้าไปโหลดแอพพลิเคชั่น “หมอพร้อม” แล้วตอบคำถามที่จะส่งมาทางไลน์ “หมอพร้อม” ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ อีกทั้งยังต้องเฝ้าสังเกตอาการตนเองด้วย หรือในผู้สูงอายุก็ให้ลูกหลานช่วยกันเฝ้าสังเกตอาการเป็นระยะๆ หากมีความผิดปกติก็ให้รีบไปพบแพทย์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image