โควิดเกาะสมุยเพิ่ม 7 ราย 3 กลุ่มเสี่ยง ‘ร้านติ่มซำ-ปาร์ตี้ภูเก็ต-ตร.ท่องเที่ยว’ ย้ำ นทท.ต้องสแกนสมุยเฮลธ์พาส

โควิดเกาะสมุยเพิ่ม 7 รายใน 3 กลุ่มเสี่ยง ‘ร้านอาหารติ่มซำ-ไปปาร์ตี้ที่ภูเก็ต-ตร.ท่องเที่ยว’ ย้ำ 2 ท่าเรือให้ นทท.สแกนสมุยเฮลธ์พาส

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 เมษายน ภายในห้องประชุมเพชรสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายนพดล ขาวมะลิ ปลัดอำเภอเกาะสมุย พร้อมด้วยนายพนม วิไลรัตน์ ปลัดเทศบาลนครเกาะสมุย นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกาะสมุย และนายอภิเดช พรหมคุ้ม สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อำเภอเกาะสมุย

โดยวันนี้เกาะสมุยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 7 ราย รวมทั้งหมด 16 ราย ที่มาจาก 3 กลุ่มเสี่ยงได้แก่ กลุ่มตำรวจท่องเที่ยว กลุ่มไปปาร์ตี้ที่ภูเก็ต และกลุ่มร้านอาหารติ่มซำ

นพ.วีระศักดิ์เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลเกาะสมุยรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 16 ราย โดยวันนี้วันเดียวมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นถึง 7 ราย โดยรายที่ 10-14 เป็นกลุ่มเสี่ยงร้านติ่มซำ เป็นครอบครัวเดียวกัน และพนักงานที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายที่ 6 ที่ได้รับเชื้อมาจากลูกค้าที่มาจากกรุงเทพฯ รายที่ 15 เป็นสามีของผู้ป่วยรายที่ 8 ที่ติดเชื้อมาจากอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และผู้ป่วยรายที่ 16 เป็นการ์ดสถานบันเทิง อยู่ในกลุ่มเสี่ยงตำรวจท่องเที่ยว ที่ได้รับเชื้อมาจากรายที่ 9 เป็นการ์ดเหมือนกัน ที่รับเชื้อมาจากตำรวจท่องเที่ยวรายที่ 4 ที่สัมผัสใกล้ชิดกับตำรวจท่องเที่ยวผู้ป่วยยืนยันของ จ.นครศรีธรรมราช ที่มาฉีดวัคซีนป้องกันโควิดที่เกาะสมุย

Advertisement

นพ.วีระศักดิ์เผยอีกว่า ถ้าดูในภาพรวมคร่าวๆ จะมีกลุ่มก้อนใหญ่ๆ เกิดขึ้นใน 16 ราย 3 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มไปปาร์ตี้ที่ภูเก็ต มียอดผู้ป่วย 3 คน กลุ่มตำรวจท่องเที่ยว มียอดผู้ป่วย 3 คน และกลุ่มร้านอาหารติ่มซำ มียอดผู้ป่วย 6 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อำเภอเกาะสมุยได้มีการปรับจุดตรวจควบคุมประจำท่าเรือซีทรานเฟอร์รี่ และท่าเรือราชาเฟอร์รี่ เพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีประสิทธิภาพ โดยให้ทั้ง 2 ท่าเรือเน้นย้ำให้ผู้เดินทางทุกท่านที่เข้าพื้นที่เกาะสมุยต้องสแกนคิวอาร์โค้ด “สมุยเฮลธ์พาส” (SAMUI HEALTH PASS) เพื่อเก็บข้อมูลผู้ที่เดินทางเข้าและออกจากเกาะสมุย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image