ศบค.สยบลือไม่เคอร์ฟิว – ชี้โควิดสะสมเกิน 5 หมื่นคน น่าห่วง 352 คน ฉีดวัคซีนแล้ว 9.6 แสนคน

‘ศบค.’ สยบลือไม่เคอร์ฟิว – เผยติดเชื้อโควิดทุบนิวไฮ 2,070 ราย สะสมเกิน 5 หมื่นคน ดับเพิ่ม 4 ราย รวม 121 ราย น่าห่วงอาการหนัก 352 คน ฉีดวัคซีนสะสมแล้ว 9.6 แสนคน

เมื่อเวลา 11.35 น. วันที่ 23 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศว่า ก่อนอื่นต้องชี้แจงถึงการแชร์ข้อมูลข่าวสารว่าจะมีการประการเคอร์ฟิวในวันที่ 23 เมษายนนั้น ศบค.ชุดใหญ่ รวมทั้งศบค.ชุดเล็กไม่ได้มีการประชุมกัน และยืนยันว่าไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศแต่อย่างใด

สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่วันนี้เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 2,070 ราย ซึ่งถือเป็นยอดการติดเชื้อที่เป็นตัวเลขนิวไฮของการระบาดในระลอกเดือนเมษายน ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 50,183 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 46,929 ราย ติดเชื้อค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 21,074 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 3,254 ราย สถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 2,625 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 341 ราย รวมเป็น 30,189 ราย กำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 19,873 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 121 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นอกจากนี้มีจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการหนัก 352 ราย ผู้ป่วยที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ อีก 91 ราย อยู่ใน กรุงเทพฯ 37 ราย สมุทรปราการ 8 ราย ชลบุรี 6 ราย นนทบุรี 5 ราย ปทุมธานี 4 ราย เชียงใหม่ 3 ราย สมุทรสาคร 3 ราย นครสวรรค์ 2 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 2 ราย และอีก 19 จังหวัด จังหวัดละ 1 ราย ส่วนผู้รับวัคซีนเข็มที่หนึ่ง เพิ่มขึ้น 87,465 และเข็มที่สองเพิ่มขึ้น 12,520 ราย สะสม 964,825 ราย

สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ ถือเป็นสถิติยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุดตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 เมื่อแยกยอดผู้ติดเชื้อรายจังหวัด สูงที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร มีผู้ติดเชื้อถึง 740 คน รองลงมาคือ เชียงใหม่ 237 คน ชลบุรี 125 คน สมุทรปราการ 79 คน นครราชสีมา 69 คน สมุทรสาคร 48 คน ประจวบคีรีขันธ์ 44 คน ปทุมธานี 41 คน สุราษฎร์ธานี และระยอง ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ พบว่า มีชาวอินเดียเข้าประเทศไทยและอยู่ในสถานกักกัน จนตรวจพบว่าติดเชื้อถึง 5 คน

Advertisement

โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต รายที่ 118 ชายไทย อายุ 72 ปี อยู่ที่ กทม. ปฎิเสธโรคประจำตัว เมื่อวันที่ 9-12 เม.ย.ไปจังหวัดภูเก็ต วันที่ 13 เม.ย.เริ่มมีไข้ ไอ เจ็บคอ และถ่ายเหลว วันที่ 17 เม.ย. อาการไม่ดีขึ้นไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล พบปอดอักเสบ วันที่ 18 เม.ย. ผลตรวจพบติดเชื้อ มีอาการเหนื่อยหอบ แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตในวันที่ 20 เม.ย. รายที่ 119 ชายไทย อายุ 74 ปี อยู่ที่สงขลา มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันเมื่อวันที่ 6 เม.ย. วันที่ 10 เม.ย.ผลตรวจพบว่าติดเชื้อ และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 11 เม.ย. วันที่ 15 เม.ย.เอ็กซเรย์ปอดพบว่าอักเสบมากขึ้น วันที่ 22 เม.ย.หัวใจหยุดเต้น แพทย์ทำการกู้ชีพ และเสียชีวิตในวันเดียวกัน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิต รายที่ 120 หญิงไทย อายุ 29 ปี อยู่ที่สมุทรปราการ มีโรคประจำตัวโรคอ้วน มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าเมื่อวันที่ 10 เม.ย. เริ่มมีอาการไอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย ในวันที่ 12 เม.ย. วันที่ 16 เม.ย.ผลตรวจพบเชื่อ วันที่ 18 เม.ย.เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ต่อมามีภาวะหัวใจล้มเหลว ปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรง และเสียชีวิตในวันที่ 22 เม.ย. รายที่ 121 ชายไทย อายุ 83 ปี อยู่ที่สมุทรปราการ มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตเรื้อรัง และโรคหัวใจ มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน และเข้ารับการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 8 เม.ย มีอาการไอ มีเสมหะ วันที่ 9 เม.ย.ผลตรวจพบว่าติดเชื้อ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล วันที่ 10 เม.ย.อาการไม่ดีขึ้น พบปอดอักเสบรุนแรง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 เม.ย.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image