“สปุตนิก” ลุ้นอย.ไฟเขียว นำเข้าวัคซีน มั่นใจนำเข้าได้ 10-15 ล้านโดสในปีนี้

สปุตนิกลุ้นอย.ไฟเขียว นำเข้าวัคซีน มั่นใจนำเข้าได้ 10-15 ล้านโดสภายในปีนี้ ตามเป้าหมายฉีดให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่100ล้านโดส

นายมารุต บูรณะเศรษฐกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คินเจน ไบโอเทค จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีข้อตกลงนำเข้าวัคซีนทางเลือก สปุตนิกจากประเทศรัสเซีย ขณะนี้ยื่นขออนุญาตขึ้นทะเบียนกับทางอย.แล้ว โดยยื่นเอกสารไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ช่วงแรกล่าช้า แต่ได้รับคำแนะนำจากทางอย.จึงทำให้ยื่นเอกสารส่วนใหญ่ได้ แต่ยังไม่ครบทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้วัคซีนสปุตนิกของรัสเซียกำลังฮอต วัคซีนคุณภาพสูง ทำให้ประเทศต่างๆ อาทิ เยอรมัน และประเทศในยุโรปสนใจดีลซื้อ ทางรัสเซียจึงไม่ค่อยมีเวลาเตรียมเอกสารให้ ซึ่งยังขาดอยู่ประมาณ 10% แต่เร็วๆนี้น่าจะครบ หากทางอย.ขึ้นทะเบียนรับรองแล้ว ภายในเดือนพฤษภาคม น่าจะนำเข้าวัคซีนทางเลือกที่รัฐบาลมอบหมายหน่วยงานรัฐจัดหามาเพิ่มเติมได้ประมาณ 1 ล้านโดสในเบื้องต้น แต่การจะนำเข้าได้เร็วหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอย.จะพิจารณาได้รวดเร็วแค่ไหนด้วย

ทั้งนี้บริษัท ได้มีข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท จุฬาวัฒน จำกัด กิจการวิสาหกิจเพื่อสังคม รับผิดชอบบริหารจัดการและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการแพทย์ ในการประสานเรื่องความต้องการวัคซีน หากอย.รับขึ้นทะเบียนแล้ว จะนำเข้ามาล็อตแรกเริ่มต้น 1 ล้านโดส ซึ่งตามเงื่อนไขของทางอย. หากได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว หากจะนำเข้าวัคซีนที่ผลิตจากโรงงานที่ยื่นขอขึ้นทะเบียน และได้รับอนุญาตแล้ว ไม่ต้องยื่นขออนุญาตอีก ยกเว้นจะผลิตจากโรงงานอื่น แม้เป็นวัคซีนยี่ห้อเดียวกันก็ต้องยื่นใหม่อีกครั้ง

นายมารุต กล่าววว่า ขณะนี้ตลาดวัคซีน ยังเป็นตลาดของผู้ขาย มีความต้องการซื้อสูง และวัคซีนของรัสเซียก็เป็นที่สนใจมาก เนื่องจากล่าสุด วารสารทางการแพทย์ระดับโลกตีพิมพ์ว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก ถึงระดับร้อยละ97.6 ประเทศต่างๆจึงต้องการดีลซื้อ จากแต่แรกที่ค่อนข้างมองข้าม วัคซีนรัสเซีย ในส่วนของประเทศไทย ที่มีแนวทางจัดหาวัคซีนทางเลือกเพิ่ม เพื่อให้มีจำนวนมากขึ้น จาก 63 ล้านโดส เป็น 100 ล้านโดสนั้น เท่าที่มีการประสาน พูดคุย จะเป็นวัคซีนของสปุตนิก 10-15 ล้านโดส ซึ่งหากได้รับอนุญาตจากอย. บริษัทจะสามารถนำเข้ามาได้ภายในปีนี้อย่างแน่นอน เพื่อให้ทันกับเป้าหมายการฉีดวัคซีนได้ 50 ล้านคน หรือ 100 ล้านโดส หรือประมาณ 80 เปอร์เซ็นของจำนวนประชากร ซึ่งจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ แต่อย่างไรก็ตาม การจะนำเข้า เร็ว หรือช้าขึ้นอยู่กับการรับรองของอย.ด้วย ซึ่งทางบริษัท แม้เห็นว่า ขณะนี้เป็นช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องพิจารณาให้รวดเร็วเพื่อให้มีการนำเข้าวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนโดยเร็ว แต่ก็เข้าใจว่าอย.ก็ต้องปฎิบัติตามขั้นตอนต่างๆที่กำหนดไว้

“ราคาวัคซีนของบริษัท เมื่อเทียบกับรายอื่นๆ ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ แต่ราคาที่กำหนดคงเป็นราคาที่กลางๆ”นายมารุตกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image