นครพนม พบผู้เสียชีวิตโควิดรายที่ 2 เป็นชายชาวจีน วัย 62 ปี อาชีพค้าขายใน กทม. เผยรู้สึกมีไข้ แต่ไม่ไปพบแพทย์ และเห็นว่าเมืองกรุงเตียงไม่พอ จึงตรงดิ่งกลับบ้านแม่ยาย ใน อ.วังยาง – เร่งปูพรมคัดกรองบุคลากรทางการแพทย์กว่า 1 พัน ผู้ว่าฯยกเลิกกักตัวที่บ้านเริ่มสัปดาห์หน้า
วันที่ 4 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อฯ นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุข นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.นครพนม นายพรต ภูภักดิ์ ปลัดจังหวัดนครพนม แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ระลอก 3 สายพันธุ์อังกฤษ หรือ UK ย่อมาจาก United Kingdom สหราช โดยในวันนี้ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อ แต่มีเสียชีวิตเพิ่ม 1 รายเป็นชายชาวจีน นับเป็นรายที่สองของจังหวัดนครพนมที่เสียชีวิตจากโรคโควิด
สรุปข้อมูลวันที่ 4 พฤษภาคม มียอดสะสม 115 ราย รักษาหายแล้ว 46 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ 67 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ในจำนวน 115 รายนั้น มาจากสถานบันเทิงชื่อดังในพื้นที่ 42 ราย มาจากการคัดกรองการเดินทางจากพื้นที่เสี่ยง 44 ราย และจากผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค(PUI) 29 ราย
ไทม์ไลน์ของผู้เสียชีวิตชาวจีนอายุ 62 ปีซึ่งเป็นเขยนครพนม (รายที่ 69 ของจังหวัด) มีอาชีพค้าขายอยู่ในกรุงเทพฯ มีภรรยาอายุ 31 ปี (ผู้ป่วยรายที่ 70) และ ลูกสาววัย 2 ขวบ(ผู้ป่วยรายที่ 71) ในแฟลตที่ครอบครัวตนเองพักอาศัยอยู่มีคนป่วยด้วยโรคโควิดจำนวนมาก ในขณะที่ตนเองก็มีอาการไข้จึงมั่นใจว่าตนเองต้องติดเชื้อโควิดด้วย แต่ไม่ยอมไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อ ประกอบกับในพื้นที่ กทม. เตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอ จึงพาครอบครัวพ่อแม่ลูกเดินทางกลับบ้านแม่ยายที่อำเภอวังยาง โดยใช้รถยนต์ส่วนตัว และตรงดิ่งไปที่โรงพยาบาลวังยางเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ผลตรวจทั้งครอบครัวติดโควิดทั้งหมด แพทย์จึงนำเข้าห้องแยกโรค รพ.วังยาง ดำเนินการรักษาทันที
เวลาประมาณ 21.00 น.ของวันเดียวกัน ชายชาวจีนมีอาการเหนื่อยหอบอย่างรุนแรง จึงส่งตัวมารักษาที่ รพ.นครพนม ผลเอกซเรย์พบว่าผู้ป่วยมีเชื้อเข้าลงไปในปอดแล้ว แพทย์ต้องนำเข้าห้อง ICU ใส่เครื่องช่วยหายใจและเริ่มไม่รู้สึกตัว ตรงจุดนี้เองที่พยาบาลสาววัย 35 ปี (ผู้ป่วยรายที่ 107) ต้องเข้ามาดูแลปฐมพยาบาล ตั้งแต่เปลี่ยนเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง เปลี่ยนแพมเพิส ล้างอุจจาระ และเจาะเลือดผู้ป่วย ได้สัมผัสกับผู้ป่วยชาวจีนรายนี้นานกว่า 2 ชั่วโมง จึงมีโอกาสพลาดติดเชื้อโควิดในเวลาต่อมา
ขณะที่อาการของชายชาวจีน เริ่มทรุดลงเรื่อย ๆ ความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดลดลง ความดันโลหิตต่ำลงตามลำดับ กระทั่งเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 พฤษภาคม ทั้งนี้ ทางทีมแพทย์ได้ประสานไปทางญาติเพื่อดำเนินการฌาปนกิจภายใน 24 ชั่วโมง
ด้านพยาบาลสาวทั้ง 4 รายที่ติดเชื้อโควิด ถือเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยงสัมผัสกับผู้ป่วยโควิด เสมือนทัพหน้าที่ต้องรบกับเชื้อโรคดังกล่าว โดยรวมอาการทั่ว ๆ ไปไม่รุนแรง ในขณะที่เพื่อนร่วมงานที่มีทั้งเสี่ยงสัมผัสสูงและสัมผัสต่ำ ประมาณ 60 คน ทางโรงพยาบาลได้ดำเนินการตรวจค้นหาเชื้อบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดกว่า 1,000 คน เพื่อให้มั่นใจว่านักรบเสื้อกาวน์ทั้งหมดปลอดจากเชื้อโควิด ส่วนในหอผู้ป่วยหนัก (ICU) ได้จัดการรีเซตภายในด้วยการพ่นฆ่าเชื้อ แอร์แกะออกมาทำความสะอาด อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ฆ่าเชื้อตามกรรมวิธีจนหมดจด
นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ เผยต่อไปว่า คลัสเตอร์ต่างๆ ในช่วงเดือนเมษายน ดำเนินการเคลียร์หมดแล้ว ยืนยันว่าในจังหวัดนครพนมไม่มีผู้แพร่เชื้อหลงเหลือ จะมีเพียงผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง ในมติคณะกรรมการโรคติดต่อฯ จึงสั่งการไปยังอำเภอต่างๆ ให้ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และ อสม. มั่นตรวจตราผู้ที่เดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน ถ้าพบให้รีบนำตัวแยกออกมาตรวจคัดกรองหาเชื้อทันที หลังจากนั้นก็ยังจะไม่ให้เข้าไปในหมู่บ้าน หรือสัมผัสกับครอบครัว ต้องนำตัวไปกักไว้ที่สถานกักตัวของรัฐ ผู้เดินทางจากจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อออกไปในวงกว้าง ตามระยะเวลาที่กำหนด หากผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน หรือ อสม. ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือปล่อยปละละเลยจะต้องถูกสอบสวน อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.นครพนม กล่าวว่ามีบางคนยังไม่เข้าใจการลักลอบเล่นการพนันในห้วงสถานการณ์เช่นนี้มีโทษหนักแค่ไหน โดยทางรัฐบาลมีพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) และพระราชบัญญัติโรคติดต่อฯ ออกมาแล้ว หากมีการมั่วสุมลักลอบเล่นการพนัน อาทิ ไก่ชน หรือไพ่ ไฮโล ฯลฯ หากถูกเจ้าพนักงานจับกุมจะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ที่ผ่านมาเท่าที่ทราบศาลสั่งปรับถึง 40,000 บาท
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่างานบุญ งานเลี้ยงใด ๆ ในช่วงนี้ ขอให้ประชาชนงดเว้นไว้ก่อน งานบุญอาจจะเป็นงานเศร้าเพราะมีผู้ป่วยไปร่วมงานด้วย ส่วนกรณีที่ต้องเพิ่มมาตรการเข้มในการกักตัว เดิมให้ผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงกักตัวอยู่บ้าน แต่พบว่ามีหลายเคสที่ตรวจพบผู้ป่วยกักตัวนำเชื้อมาแพร่ให้คนที่บ้านป่วยยกครัว จึงยกเลิกการกักตัวที่บ้านมาเป็นกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้เท่านั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดภายในครอบครัว โดยนโยบายนี้จะนำมาใช้ในสัปดาห์หน้า
