‘หมอโอภาส’ ยัน สธ.ไม่เคยเชิญ ‘ทอม เครือโสภณ’ เป็นหนูทดลองฉีดวัคซีนแลกข่าว

‘หมอโอภาส’ ยัน สธ.ไม่เคยเชิญ ‘ทอม เครือโสภณ’ เป็นหนูทดลองฉีดวัคซีนแลกข่าว

จากกรณี นายทอม เครือโสภณ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการคมชัดลึก ช่วงดึกเมื่อวานนี้(6พ.ค.) ว่า ตนถูกกระทรวงสาธารณสุข เชิญให้ไปเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นวัคซีนซิโนแวค เพื่อประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการรับวัคซีนของประชาชน ผ่าน Facebook live ของตน พร้อมระบุว่า ตนเป็นหนูทดลองให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ทำข่าวประชาสัมพันธ์ในช่วงแรกที่เริ่มมีการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ คลิปวีดีโอดังกล่าว ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 มีนาคม

ล่าสุด วันที่ 7 พฤษภาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ไม่เคยให้ประชาชนมาเป็นหนูทดลองในการฉีดวัคซีน แม้ว่าจะช่วงแรกของการเริ่มฉีดวัคซีน เนื่องจากวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาฉีดให้ประชาชาต้องมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และก่อนนำมาฉีดให้กับประชาชนจะต้องผ่านการตรวจสอบจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า สธ. เชิญนักธุรกิจบางท่านมาฉีดวัคซีนในเชิงการประชาสัมพันธ์ จึงขอย้ำว่า สธ. ไม่เคยเชิญนักธุรกิจคนดังกล่าว มาประชาสัมพันธ์เรื่องการฉีดวัคซีน รวมถึงการถ่ายคลิปในสถานพยาบาลเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อน

“ฉะนั้นไม่เป็นข้อเท็จจริง จากการติดตามสอบถามดูพบว่า เรามีเกณฑ์ว่าจะฉีดวัคซีนให้ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศตามความจำเป็น อย่างเช่น นักเรียนที่จะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งประเทศต้นทางระบุว่าจะต้องฉีดวัคซีนก่อน นักกีฬาที่เดินทางไปแข่งในนามประเทศไทย ในกรณีเป็นการประกวดนางงามในนานาชาติ และไม่ทราบว่าเขาเข้ามาอยู่ในคณะนี้ได้อย่างไร” นพ.โอภาส กล่าว

Advertisement

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าคนไทยเดินทางไปสหรัฐอเมริกาแล้วจะได้รับการฉีดวัคซีนฟรี นพ.โอภาส กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้ทำเอกสารออกมาเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังในการเดินทางไป เพราะแต่ละรัฐมีเงื่อนไขที่ต่างกัน ประชาชนอาจจะไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ทำให้เสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น ดังนั้น จะต้องดูข้อมูลให้ครบถ้วน

“มีข้อกำหนดที่เขาอาจจะกล่าวไม่หมด เช่นบางคนต้องมีใบเขียว(Green card) หรือมีญาติที่รู้จัก หรือบางรายเป็นเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยน เป็นสิ่งที่เขาไม่ได้บอก ก็ทำให้ประชาชนสับสนคิดว่าใครไปก็ได้ฉีดทุกคน ซึ่งแต่ละรัฐมีข้อจำกัดที่ต่างกัน เหมือนว่าบอกความจริงแค่ครึ่งเดียว ขอให้ประชาชนดูเอกสารจาก กต. ข้อมูลทางการที่ระบุว่า หากจะไปจริงๆ ให้ติดต่อสอบถามให้ดีเพื่อป้องกันประชาชนถูกหลอก” นพ.โอภาส กล่าว

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรกรณีที่มีการกล่าวพาดพิงถึงตนเอง นพ.โอภาส กล่าวว่า ตนไม่ได้รู้สึกอะไร ถือว่าเป็นการทำหน้าที่จึงไม่มีความกังวลเรื่องอะไร ทำหน้าที่ให้กับประเทศชาติ อย่างน้อยก็เตือนประชาชนไม่ให้ถูกหลอก หรือเกิดความไขว้เขวโดยไม่จำเป็น

Advertisement

“ผมแจ้งเตือนประชาชน เพื่อไม่ให้ต้องเสียเงินเดินทางไปฉีด รวมถึงไปแล้วไม่รู้จะได้ฉีดเข็ม 2 หรือเปล่า กลับมาก็ถูกกักตัว เป็นการแจ้งเตือนประชาชนให้ศึกษาข้อมูลให้ดี จากข้อมูลที่เป็นทางการ” นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาส กล่าวว่า ขอให้ความเชื่อมั่นว่า นโยบายของรัฐบาล เราจะจัดหาวัคซีนให้ประชาชนคนไทยโดยที่ไม่คิดมูลค่า อย่างน้อย 100 ล้านโดสครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 50 ล้านคน ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทยด้วย ตัวอย่างของวันนี้ที่ทางบริษัทไฟเซอร์ เองก็ยืนยันในการจัดหาวัคซีนให้ประเทศไทย ซึ่งเราก็จะนำมาฉีดให้กับเด็กอายุตั้งแต่ 12-18 ปี เพราะเป็นวัคซีนเดียวในขณะนี้ที่ ประเทศแคนาดาอนุมัติให้ฉีดกับเด็กตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และคาดว่าสหรัฐอเมริกาจะอนุมัติในเร็วๆ นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image