วันนี้พบผู้ติดเชื้อใหม่ 2,713 ราย ดับ 30 ราย อายุน้อยสุด 28 ปี ตปท.พบ 49 คน ส่วนใหญ่กลับจากกัมพูชา

ศบค.เผย ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,713 ราย ดับ 30 ราย อายุน้อยสุดแค่ 28 ปี ตปท.พบ 49 รายส่วนใหญ่กลับจากกัมพูชา ศบค.ชุดเล็ก ย้ำฝ่ายปกครองคุมเข้มพื้นที่ชายแดน ป้องกันลักลอบเข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 24 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) หรือ ศบค. แถลงรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 2,713 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 2,458 ราย เดินทางจากต่างประเทศ 49 ราย คัดกรองในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 206 ราย รวมผู้ป่วยติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 132,213 ราย ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 1,565 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 86,100 ราย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 30 ราย เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 806 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 45,307 ราย รักษาในโรงพยาบาล 18,753 ราย โรงพยาบาลสนาม 26,554 ราย อาการหนัก 1,169 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 406 ราย

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีนวัคซีนทั่วประเทศฉีดแล้ว 2,910,664 โดส แบ่งเป็นผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 รวม 1,941,565 เข็มที่ 2 รวม 969,099 ราย ขณะที่สถานการณ์โควิดโลกของวันนี้ประเทศไทย อยู่ลำดับที่ 87 ส่วนประเทศเพื่อนบ้านที่เราได้เฝ้าระวัง โดยมาเลเซีย พบผู้ติดเชื้อใหม่ 6,976 ราย กัมพูชา 560 ราย เวียดนาม 131 ราย เป็นต้น

พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต 30 ราย แบ่งเป็น กทม. 11 ราย นครราชสีมา ราชบุรี 3 ราย สมุทรสาคร สมุทรปราการ 2 ราย ส่วน ปทุมธานี สกลนคร ตาก อยุธยา เชียงราย สุรินทร์ ชัยภูมิ นนทบุรี ชัยนาท จังหวัดละ 1 ราย เพศชาย 20 ราย หญิง 10 ราย อายุน้อยสุด 28 ปี มากสุด 105 ปี ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อยังคงเป็นการติดเชื้อภายในครอบครัว โดยผู้รักษาตัวนานสุดของกลุ่มนี้นานสุดคือ 35 วัน และ 7 รายเสียชีวิตในช่วงสัปดาห์แรก

Advertisement

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ขณะเดียวกันมีข่าวฝากประชาสัมพันธ์จากนายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด ทรวงอกและไอซียู ว่า การดูแลผู้ป่วยวิกฤตที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจากโรคโควิด เมื่อมีประวัติเคยสูบหรือสูบบุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้า พบว่ามีความผิดปกติของปอด และเมื่อติดเชื้อโควิดจะทำให้อาการรุนแรง และแพทย์ให้ความช่วยเหลือพบว่ามีจำนวนมากเกิดภาวะปอดแฟบและเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิต หรือนอนโรงพยาบาลเป็นเวลานาน ดังนั้น หากมีความสนใจหรือลดหรืองดการสูบบุหรี่ มีโรงพยาบาลทุกแห่งที่จะช่วยเหลือได้

“ผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 49 ราย มาจากอินเดีย 6 รายนั้น ขอย้ำว่าเป็นคนไทยทั้งหมดที่เดินทางกลับประเทศ มีคำถามว่าเราไม่อนุญาตให้เดินทางกลับมาจากอินเดีย ปากีสถาน บังคลาเทศ เนปาล ได้หรือไม่ ขอเรียนว่าเรามีนโยบายให้คนไทยเดินทางกลับได้ แต่ขอความร่วมมือให้เข้าสู่ระบบคัดกรองที่รัฐจัดให้ เพื่อจะดูแลด้วยความปลอดภัยไม่ให้มีการแพร่เชื้อโรคได้ ทั้งนี้ สิ่งที่เราเฝ้าติดตามอย่างเข้มข้นช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาคือประชาชนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกัมพูชา ซึ่งวันนี้จะเห็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงมากคือ 41 ราย

Advertisement

“โดยกลุ่มนี้เดินทางเข้ามาอย่างถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ มีเพียง 2 รายเท่านั้นที่ผ่านด่านสระแก้วผิดกฎหมาย ทั้งหมดนี้ส่วนใหญ่เป็นนักพนันออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ทาง ผอ.ศบค.ชุดเล็กได้เน้นย้ำขอความร่วมมือฝ่ายปกครองในส่วนของจังหวัดติดตามป้องกันการลักลอบเข้าประเทศผ่านแนวชายแดน โดยเข้มมาตรการของรัฐเป็นหลัก ติดตามตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายททาง หากพบว่าพื้นที่ใด โรงงานใด บริษัทจัดหางานแห่งใด ให้ความช่วยเหลือลักลอบเดินทางข้ามแดนผิดกฎหมาย ถือเป็นความผิดและจะมีการลงโทษ ขอยืนยันว่าเราไม่ได้ห้ามประชาชนเดินทางกลับประเทศ แต่ต้องช่วยกันเพื่อให้การเฝ้าระวังเกิดความสำเร็จ พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า สำหรับตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 อันดับแรก ประกอบด้วย กทม. 951 ราย เพชรบุรี 669 ราย สมุทรปราการ 180 ราย ชลบุรี 106 ราย นนทบุรี 92 ราย สมุทรสาคร 43 ราย ปทุมธานี 38 ราย สงขลา 36 ราย ระยอง 30 ราย และนครปฐม 28 ราย ขณะที่การระบาดที่พบในจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มนั้น เพชรบุรี กระจาย 8 อำเภอ โดยโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อของผู้พักอาศัยคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง 81 ราย โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค สรุปภาพรวมทั้งประเทศ จังหวัดสีขาวตอนนี้เริ่มเห็นเพิ่มขึ้น 27 จังหวัด ส่วนสีเขียวคือมีรายงานตัวเลขไม่เกิน 10 ราย 28 จังหวัด เมื่อรวม 2 สี จะเห็นว่ามีแนวโน้มดีขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image