เศร้า! สามีเล่าอาการภรรยาติดโควิด เสียชีวิตคาบ้าน น้ำตาไหล แฟนบอกเจ็บที่หัวใจ
จากกรณีมีหญิงวัย 38 ปี ติดโควิดและรักษาตัวภายในห้องพักกับสามี ภายในชุมชนบ้านครัวเหนือ ถนนบรรทัดทอง เชิงสะพานเจริญผล เขตราชเทวี กทม. ต่อมาสามีได้ติดโควิดด้วยเช่นกัน ที่ผ่านมาสามีพยายามติดต่อขอให้เจ้าหน้าที่รับตัวไปรักษา แต่ทุกครั้งปลายสายได้แจ้งให้รอการติดต่อกลับ เนื่องจากขณะนี้เตียงไม่ว่าง โดยรออยู่นานกว่า 1 สัปดาห์จนกระทั่งฝ่ายภรรยาเสียชีวิตคาห้องพัก
สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.64 นายสุทิน บุญขวัญ อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย สามีของ น.ส.บุญทวี วรจิต อายุ 38 ปี ชาว สปป.ลาว ที่ติดโควิดและเสียชีวิตในห้องพัก โดยนายสุทินก็ติดโควิดด้วยเช่นกัน เปิดใจว่า คาดภรรยาติดโควิดมาจากการทำอาชีพขายเสื้อผ้าที่ย่านประตูน้ำ โดยเริ่มมีอาการไอ แต่ไอไม่เยอะเท่าไหร่ จนกระทั่งวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่าภรรยาติดโควิด
โรงพยาบาลก็บอกให้เก็บเสื้อผ้าไว้รอ เดี๋ยวจะมีรถมารับ ตนก็กลับบ้านที่ชุมชนบ้านครัวเหนือ ถนนบรรทัดทอง เพื่อดูอาการของภรรยา แล้วตนก็ตัดสินใจไปตรวจหาเชื้อวันที่ 19 มิ.ย. ผลออกมาว่าติดเชื้อเช่นกัน ช่วง 2 วันแรกแฟนมีอาการไอมากขึ้น และเริ่มอ่อนเพลียมีอาการเมื่อยตัว ก็พยายามโทรสอบถามโรงพยาบาลตลอดว่าเมื่อไหร่จะมีรถมารับ แต่โรงพยาบาลก็ได้แนะนำการดูแลอาการเบื้องต้น ก็ให้แฟนกินยาพาราเซตามอล
ยาแก้ปวดแล้วก็นอนพักเป็นส่วนใหญ่ จนวันที่ 22 มิ.ย. แฟนเริ่มตื่นมารับโทรศัพท์ไม่ได้ ได้แต่มอง ปากมีเลือดออกแล้ว พยายามเร่งให้โรงพยาบาลมารับแฟนโดยเร็ว โทรไปหลายโรงพยาบาลมาก แต่ก็ไม่มีที่ไหนมารับเลย มีแต่ขอเอาข้อมูล เมื่อตนบอกว่าแฟนเป็นคน สปป.ลาว ก็เงียบไป
“ช่วงเวลานั้นผมไม่ได้นอนเลย แฟนมีไข้ขึ้นสูง เช็ดตัวให้แฟนทั้งคืน จนกระทั่งวันที่ 23 มิ.ย. แฟนเริ่มหายใจเร็ว ดื่มน้ำไม่ได้แล้ว ให้อะไรก็ไม่กินแล้ว จนกระทั่งช่วงดึกประมาณตี 2 เริ่มไม่อยากพูดอะไรแล้ว เริ่มหนักมากแล้ว จนกระทั่งวันที่ 24 มิ.ย. แฟนเริ่มหนักและบอกว่าเจ็บหัวใจ ผมก็น้ำตาไหล ซึ่งตอนนั้นอาการหนักมาก น่าจะไม่รอดแล้ว จนกระทั่งเวลา 11 โมง
ผมกำลังทำกับข้าวให้แฟนกิน แฟนบอกว่าเจ็บหัวใจอีกครั้ง แล้วก็หงายหลังเลย จึงรีบโทรหาหมอ หมอบอกให้ผมช่วยปั๊มหัวใจให้แฟน ปั๊มจนกว่ารถโรงพยาบาลจะมาถึง หน้าอกแฟนก็เริ่มแข็งแล้ว จนกระทั่ง 12.30 น. รถโรงพยาบาลมาถึงก็มาตรวจสอบ แล้วบอกว่า แฟนเสียชีวิตแล้ว ผมก็พูดอะไรไม่ออก น้อยใจมาก ว่าทำไมดูแลกันไม่ทั่วถึง และไม่อยากให้เขาทำกับประชาชนคนอื่นแบบนี้อีก” นายสุทินกล่าว