‘เพื่อไทย’ เรียกร้อง ‘บิ๊กตู่’ ลดขั้นตอนนำเข้าวัคซีนทางเลือก ใช้อำนาจแก้ไขโดยเร็ว ชีวิต ปชช.ไม่ใช่ของเล่น จี้ รบ.เปิดเผยความจริงปมนำเข้าวัคซีน
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยความจริงกับประชาชนถึงความล่าช้าในการจัดหาวัคซีน ขณะนี้ล่วงเลยมานานมากแล้ว ไม่มีวี่แววว่าประชาชนจะได้ฉีดเมื่อไหร่
วันนี้ปัญหาอุปสรรคไม่ใช่เรื่องของเงินงบประมาณ เพราะเพิ่งผ่านการพิจารณางบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎรทั้งงบปกติและงบเงินกู้ ล่าสุดเพิ่งผ่านการอนุมัติ พ.ร.ก.เงินกู้อีก 5 แสนล้านบาทไปหยกๆ ดังนั้น ความล่าช้าอยู่ที่การบริหารจัดการของรัฐบาลเอง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยตัวเลขการจัดซื้อวัคซีนทั้งหมดทั้งที่ส่งมอบแล้ว และกำลังจะส่งมอบต้องเปิดเผยราคาต่อหน่วย เปิดเผยสัญญาทั้งหมด และใช้งบประมาณไปแล้วทั้งหมดเท่าไหร่
อีกทั้งเปิดเผยข้อเท็จจริงกรณีการนำเข้าวัคซีนทางเลือกยี่ห้ออื่นๆ เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่ขณะนี้ตัวเลขการจองวัคซีนทางเลือกผ่านโรงพยาบาลเอกชนมีเป็นจำนวนมาก นั่นแสดงให้เห็นว่าประชาชนขาดความเชื่อมั่นในคุณภาพวัคซีนที่รัฐบาลจัดหา และควรหยุดซื้อวัคซีนซิโนแวคได้แล้ว งบประมาณที่ยังไม่ได้ใช้ควรจัดหาวัคซีนตัวอื่นที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่า รัฐบาลมักจะอ้างว่าความล่าช้าในการนำเข้าเกิดจากการตรวจร่างสัญญาจากทางสำนักงานอัยการสูงสุด ตนทราบจากแหล่งข่าวและจากแถลงการณ์ของสำนักอัยการสูงสุดว่ายังไม่มีการส่งสัญญาวัคซีนทางเลือกตัวอื่นให้กับทางสำนักอัยการสูงสุดตรวจเลย มีเพียง 3 ชนิด คือ ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ เท่านั้นที่ผ่านการตรวจร่างสัญญาแล้ว
นายไชยากล่าวอีกว่า ในฐานะประธานคณะ กมธ.ติดตามงบฯ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อเท็จจริงกับประชาชนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส อีกทั้งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ ศบค.ที่มีอำนาจเต็ม สั่งการให้ลดขั้นตอนการอนุมัติการนำเข้าวัคซีนทางเลือกโดยเร็ว เพราะเป็นภาวะสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดความล่าช้าในขั้นตอนราชการอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เมื่อรวบอำนาจไว้ที่นายกฯแล้ว ต้องรู้จักใช้อำนาจในการแก้ไขสถานการณ์โดยเร็ว เพราะชีวิตของประชาชนไม่ใช่ของเล่น
