‘สภากาชาด’ แจงปมซื้อโมเดอร์นาล้านโดส ฉีดด่านหน้า-กลุ่มเสี่ยง แต่ไม่ฉีดให้ผู้บริจาคโลหิต

‘สภากาชาด’ แจงปมซื้อโมเดอร์นาล้านโดส ฉีดด่านหน้า-กลุ่มเสี่ยง แต่ไม่ฉีดให้ผู้บริจาคโลหิต

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงถึงกรณีการจัดสรรวัคซีนของสภากาชาดไทย โดยระบุว่า

จากกรณีที่สภากาชาดไทย จัดซื้อวัคซีนโควิด-19 Moderna จำนวน 1 ล้านโดส โดยจะดำเนินการจัดสรรให้กับ 1.บุคลากรทางการแพทย์ 2.กลุ่มประชาชนผู้ด้อยโอกาส คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีมีครรภ์ 3.ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไปที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน

ทำไมไม่จัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มผู้บริจาคโลหิตบ้าง

Advertisement

ขอชี้แจง ดังนี้

  • ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ไม่สามารถดำเนินการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนทั่วไปได้โดยตรง
  • การจัดสรรวัคซีน ต้องมีการวางแผนที่เหมาะสม โดยทีมงานส่วนกลางของสภากาชาดไทย เป็นผู้พิจารณาจัดสรร ร่วมกับหน่วยงานแกนกลางของประเทศ เพื่อให้สามารถกระจายวัคซีนให้แก่ประชาชนกลุ่มผู้เปราะบางในสังคม และผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่างๆ รวมทั้งบุคลากรด่านหน้าที่ต้องปฏิบัติงานกับผู้ป่วยโควิด ให้ครอบคลุมในภาพรวม
  • สำหรับผู้บริจาคโลหิต ที่สูงอายุ ศูนย์ฯ ขอรับไว้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะดูแล และจะแนะนำแนวทางลงทะเบียนให้ต่อไป

ขอบคุณผู้บริจาคโลหิตทุกท่าน ที่เสียสละบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย เราจะผ่านวิกฤติครั้งใหญ่นี้ไปด้วยกัน

Advertisement

ทั้งนี้ สภากาชาดไทยขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติม เรื่องการจัดสรรวัคซีน Moderna ที่ได้มา โดยสภากาชาดไทยจะมอบวัคซีนให้โรงพยาบาลสังกัดคณะแพทยศาสตร์ และอบจ. ในราคาต้นทุนที่ได้มาจาก องค์การเภสัชกรรม

ซึ่งขณะนี้ ราคายังคงอยู่ที่ 1,100 บาท โดยที่ยังไม่เห็นเอกสารยืนยันราคาจากองค์การเภสัชกรรม

ทั้งนี้ได้กำหนดเป้าหมายสำหรับผู้ที่จะได้รับฉีดวัคซีนไว้ 5 กลุ่ม ได้แก่
💉บุคลากรทางการแพทย์
💉ประชาชนผู้ด้อยโอกาส คนพิการ
💉 ผู้ป่วยติดเตียง
💉สตรีมีครรภ์
💉ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป

** ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 ให้สามารถเข้าถึงวัคซีน

โดยไม่คิดคิดค่าใช้จ่ายกับประชาชน

สำหรับแหล่งเงินที่นำไปจัดซื้อวัคซีนมาจากเงินรับบริจาคและเงินสะสมของกาชาด รวมกับเงินสนับสนุนจากหน่วยงานที่จะรับวัคซีนไปฉีดฟรีให้กลุ่มเป้าหมาย และการฉีดส่วนหนึ่งสภากาชาดไทยจะเป็นผู้จัดการฉีดในสถานที่ของสภากาชาดไทยให้มากที่สุด

สภากาชาดไทย ตระหนักถึงน้ำใจไมตรีที่ผู้บริจาคทุกท่านมอบให้ไม่ว่าจะเป็นโลหิต ดวงตา อวัยวะ ทรัพย์สิน สิ่งของและเงินบริจาค ที่ทำให้สภากาชาดไทย ขับเคลื่อนงานตามรอยพระยุคลบาทมายาวนานกว่า 128 ปี และยังคงยึดมั่นสานต่อการทำงานตามหลักการกาชาดเพื่อมนุษยธรรมมาโดยตลอด สำหรับสถานการณ์นี้ ด้วยข้อจำกัด ด้วยงบประมาณที่สภากาชาดไทยมีจากเงินคงคลังและเงินบริจาคที่รวบรวมมาได้ ยังคงไม่เพียงพอต่อการจัดหาวัคซีนเพื่อจะนำมาช่วยเหลือผู้ป่วยและประชาชนได้ทั้งหมด หรือในจำนวนที่มาก ดังนั้นในเบื้องต้นจึงต้องมุ่งเน้นกลุ่มผู้เปราะบางและมีความเสี่ยง ที่ไม่มีโอกาสการเข้าถึงวัคซีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักดังที่กล่าวมาในเบื้องต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image