ผงะ! คลัสเตอร์บ้านพักข้าราชการ ชป.8 โคราช ปกปิดไทม์ไลน์ เดินทางไปกักตัวชัยภูมิ ติดเชื้อทั้งข้าราชการ ลูกจ้าง ครอบครัว คนขายน้ำแข็ง 14 ราย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม นายไกรสีห์ หล่อธราประเสริฐ รองนายกเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและประเมินสภาพแวดล้อมสถานที่ทำงานภายในอาคารโครงการก่อสร้าง สำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา (ชป.8 นม.) จากนั้นได้มอบหมายให้อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฮุก.31 นครราชสีมา ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในห้องทำงานและพื้นที่จุดเสี่ยง เพื่อสร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้กับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างรวมทั้งประชาชนที่มาติดต่อราชการ หลังพบคลัสเตอร์บ้านพักข้าราชการเชื่อมโยงบุคคลในสถานที่ทำงาน
นายแพทย์วิชาญ คิดเห็น รองนายกแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า การสอบสวนโรคคลัสเตอร์ดังกล่าว เริ่มจากผู้ป่วยรายที่ 1,790 วันที่ 2 กค. เดินทางไปพื้นที่เสี่ยง จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 8 ก.ค. ทำก๋วยเตี๋ยวเลี้ยงเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเนื่องในโอกาสฉลองวันคล้ายวันเกิด โดยมีรายที่ 3,310 หญิงไทยอายุ 51 ปี พนักงานทั่วไป ร่วมทำก๋วยเตี๋ยวด้วยแต่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
จากนั้น วันที่ 9 ก.ค. รายที่ 1,790 มีอาการไข้และไปตรวจที่โรงพยาบาล ป.แพทย์ 2 ปรากฏผลติดเชื้อ ส่วนรายที่ 3,310 เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำและปิดบังข้อมูล จึงปฏิบัติงานในหน่วยงานตามปกติและได้แพร่เชื้อไปยังครอบครัวรวมทั้งญาติพี่น้องที่พักอาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านพักพื้นที่ สนง.ชป.8 นม. และมีอาชีพผลิตปลาส้ม ปลาร้าขายปลีกและส่งให้ลูกค้าในเขต อ.เมือง ส่วนหนึ่งเดินทางมารับสินค้าไปขาย
นอกจากนี้ญาติ พี่น้องของรายที่ 3,310 จำนวน 7 ราย ติดเชื้อด้วย แต่ระเบียบของหน่วยงานระบุไม่ให้กักตัวในบ้านพัก หลังจากตรวจที่ รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) นครราชสีมา วันที่ 13 กค. เดินทางไปเยี่ยมแม่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ที่ ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ โดยไม่แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ แต่ไม่ได้เข้าหมู่บ้าน เนื่องจากมีมาตรการตรวจคัดกรอง แต่ก็มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหลายคน ล่าสุดญาติทั้ง 7 คน ได้มารักษาที่ รพ.มทส. และได้ติดตามกลุ่มเสี่ยงสูงซึ่งเป็นคนส่งน้ำแข็ง คนส่งปลา และพ่อค้ารถเร่ขายก๋วยเตี๋ยวใน ชป.8 มาตรวจคัดกรองพบคนส่งน้ำแข็งติดเชื้อ 1 ราย รวมสะสม 14 ราย ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องทำงานที่บ้าน (WFH) จนกว่ามีจะมีคาสั่งเปลี่ยนแปลง
ส่วนสถานการณ์ล่าสุดพบผู้ป่วยรายใหม่ 245 ราย สอบสวนโรคเป็นผู้ป่วยเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 58 ราย และสัมผัสผู้ป่วย 154 ราย รวมยอดสะสม 3,984 ราย รักษาหาย 2,230 ราย ยังรักษาอยู่ 1,713 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย และรวมเสียชีวิตสะสม 41 ราย
