สธ.เพิ่มศักยภาพ รพ.บุษราคัม ดูแลผู้ป่วยโควิดวิกฤตสีแดง
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. มีความห่วงใยผู้ป่วยโควิด-19 ต้องการให้ทุกคนได้เข้าสู่ระบบการรักษา โดยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อยได้รับการดูแลที่บ้านหรือในชุมชน ติดตามดูแลโดย ทีมปฏิบัติการเชิงรุก Comprehensive COVID-19 Response Team (CCR Team) สำหรับการดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและกลุ่มสีแดงที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น สธ.ได้ให้โรงพยาบาล (รพ.) บุษราคัม ร่วมดูแล ขณะนี้รับผู้ป่วยรายใหม่วันละ 300 กว่าราย ยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม-วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 จำนวน 9,435 ราย ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านเพิ่มขึ้นถึง 2,622 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วย ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2564 มีจำนวนสะสม 12,057 ราย ขณะนี้มีผู้ป่วยนอนรักษาในโรงพยาบาล 3,610 ราย กลับบ้านไปแล้ว 8,000 กว่าราย
นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดต่อเนื่องและรุนแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้ขณะนี้สัดส่วนของผู้ป่วยที่มีอาการหนักในโรงพยาบาลบุษราคัมมีจำนวนมากขึ้น ที่ประชุม EOC สธ.ได้เห็นชอบให้พัฒนาพื้นที่รองรับผู้ป่วยวิกฤตสีแดงเข้มเพิ่มจำนวน 17 เตียง และได้จัดงบประมาณในการจัดหาเครื่องช่วยหายใจไฮไฟลว์ และอุปกรณ์การแพทย์ที่สำคัญอื่นๆ เพิ่มเติม รวมทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนเครื่องช่วยหายใจไฮโฟลว์เพิ่มอีก 45 เครื่อง เพื่อให้การดูแลผู้ป่วย ซึ่งขณะนี้ที่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจน 700 ราย และต้องใส่เครื่องช่วยใจไฮโฟลว์ 200 ราย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา โดยจนถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 มีผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจไฮโฟลว์ 158 ราย, ช่วงวันที่ 18-22 กรกฎาคม 2564 มีจำนวน 164 ราย
นอกจากนี้ ปลัด สธ.กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ได้ระดมกำลังคนเพิ่มจากส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย แพทย์และเภสัชกร เขตสุขภาพละ 3 คน พยาบาลจังหวัดละ 3 คน และส่วนกลางสนับสนุนเจ้าหน้าที่ back office วันละ 20 คน เพื่อเป็นกำลังเสริมการทำงานให้ทุกหน่วยงาน รวมทั้งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจบุคลากรที่มีภาระงานหนักมากในเดือนกรกฎาคม โรงพยาบาลบุษราคัมได้เสนอปรับค่าตอบแทนสำหรับผู้ปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“รพ.บุษราคัม ยังคงมีเจตจำนงมุ่งมั่นที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยบุคลากรที่มีจิตอาสา จากภูมิภาคของประเทศไทยเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างดีที่สุด สธ.ขอบคุณในน้ำใจ ความเสียสละของบุคลากรทุกคน ” นพ.เกียรติภูมิกล่าว
