หมอศิริราช ยันผลวิจัยฉีดวัคซีนไขว้ ภูมิสูงกว่าแอสตร้าฯ 2 เข็ม แต่น้อยกว่าไฟเซอร์ครบโดส 1 เท่า!
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก (SICRES) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ประเด็นการฉีดวัคซีนแบบสลับชนิด หรือฉีดไขว้ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับสังคมไทย ว่า ศูนย์วิจัยคลินิก ศิริราชพยาบาล ได้ทำการวิจัยประสิทธิผลการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นการวัดด้วย IgG หน่วยเป็น BAU ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก โดยโครงการที่ 1 การฉีดสลับไขว้ ด้วยการฉีดเข็มแรกด้วยซิโนแวค ตามด้วยเข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้า พบว่าภูมิต้านทานขึ้นจาก 24.36 เป็น 1,354.51 แต่หากฉีดเข็มแรกด้วยแอสตร้าฯ ตามด้วยซิโนแวค ภูมิต้านทานจะขึ้นน้อย จาก 147.50 เป็น 222.47 เมื่อเทียบกับการฉีดไม่สลับ โดยฉีดตัวเดิม 2 เข็ม ทั้งซิโนแวค 2 เข็ม หรือ แอสตร้าฯ 2 เข็ม พบภูมิต้านทานสูงไม่เท่าฉีดสลับ ขณะที่ฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม ภูมิต้านทานอยู่ที่ 1,900
ศ.พญ.กุลกัญญา กล่าวว่า โครงการที่ 2 การศึกษาบุคลากรทางการแพทย์และสาธาราณสุขที่ฉีดกระตุ้นด้วยเข็มที่ 3 หรือ บูสเตอร์ โดส หลังรับซิโนแวค 2 เข็ม หากกระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ พบภูมิต้านทานขึ้นจาก 52.20 เพิ่มเป็น 1,558.79 หากกระตุ้นด้วยซิโนฟาร์ม เพิ่มจาก 44.92 เป็น 218.90
“นอกจากนี้ คณะฯ ยังร่วมวิจัยกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ผลที่สอดคล้องกัน ทั้งนี้ โดยสรุปฉีดไขว้ด้วยซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าฯ ได้ภูมิสูงกว่าซิโนแวค 2 เข็ม ถึง 3 เท่า สูงกว่าฉีดไขว้ด้วยแอสตร้าฯ ตามด้วยซิโนแวค 3 เท่า สูงกว่าแอสตร้าฯ 2 เข็ม เล็กน้อย แต่ต่ำกว่าไฟเซอร์ 2 เข็ม เพียง 1 เท่า” ศ.พญ.กุลกัญญา กล่าว
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ส่วนการกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยแอสตร้าฯ ได้ภูมิต้านทานสูงกว่ากระตุ้นด้วยซิโนฟาร์ม 4 เท่า สูงกว่าฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม 1.7 เท่า และได้ภูมิต้านทานใกล้เคียงกับผู้ที่หายป่วยด้วยเชื้อเดลต้า และเชื้อแอลฟา
ศ.พญ.กุลกัญญา กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับซิโนแวค 2 เข็ม ไม่เพียงพอที่จะป้องกันสายพันธุ์เดลต้า ยังสามารถติดเชื้อได้ค่อนข้างมาก แต่อาการอาจจะไม่รุนแรง ส่วนน้อยที่มีอาการรุนแรงได้หากมีปัจจัยร่วม ดังนั้นระหว่างที่ยังรอเข็มที่ 3 บูสเตอร์ โดส จึงยังต้องเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคล ทั้งสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง เพราะถือว่ามีความเสี่ยงที่จะยังติดเชื้อได้ และเข้ารับเข็มที่ 3 ไม่ว่าชนิดใดให้เร็วสุดเมื่อมีโอกาส แม้ว่าจะเป็นการบูสต์ด้วยซิโนฟาร์ม ก็ยังสามารถกระตุ้นได้ แม้จะไม่ดีเท่าแอสตร้าฯ และไฟเซอร์ก็ตาม