สปสช.เปิดข้อมูลกระจาย ATK มีประชาชนกลุ่มเสี่ยงรับชุดตรวจแล้ว 4,299 ราย รวมจำนวน 8,598 ชุด เตรียมเร่งกระจายสู่หน่วยบริการทั่วประเทศ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยเร็วหลังรับชุดตรวจ เพื่อสู่ระบบการรักษาและลดการแพร่ระบาด
เมื่อวันที่ 17 ก.ย.64 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่ สปสช.ได้ดำเนินการนโยบายแจกชุดตรวจ “แอนติเจน เทสต์ คิท” (Antigen Test Kit : ATK) เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตนเอง โดยเริ่มแจกจ่ายแล้วเมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) เป็นวันแรก มีการกระจายไปที่ร้านยา และคลินิกชุมชนอบอุ่นใน กทม. เรียบร้อยแล้ว และบางจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 เขตสีแดงเข้มที่จัดส่งแล้ว คือ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา สระบุรี นนทบุรี ตาก และอุตรดิตถ์ โดยภาพรวมวันที่ 17 ก.ย.64 ณ เวลา 11.05 น. มีประชาชนรับชุดตรวจแล้วทั้งสิ้นจำนวน 4,299 ราย รวมจำนวน 8,598 ชุด ในจำนวนนี้เป็นการขอรับผ่านแอพพ์เป๋าตัง 4,295 ราย ส่วนอีก 4 ราย เป็นการแจกโดย อสม.
ส่วนความคืบหน้าการกระจายชุดตรวจ ATK นั้น จากข้อมูลองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้แบ่งการตรวจรับเป็น 4 งวด งวดที่ 1 จำนวน 1.167 ล้านชุด ตรวจรับเรียบร้อยแล้วและกระจายไปตามหน่วยบริการในบางพื้นที่ตามข้อมูลข้างต้น ส่วนงวดที่ 2 และงวดที่ 3 จำนวน 2.155 ล้านชุด และ 1.4 ล้านชุด อยู่ระหว่างรอการตรวจรับที่จะแล้วเสร็จในวันนี้ และเตรียมที่จะกระจายไปยังหน่วยบริการในเขต 4, 5, 6, 11 และเขต 12 คาดว่าจะได้รับในวันพรุ่งนี้ ส่วนงวดที่ 4 จำนวน 3.778 ล้านชุด ที่เป็นล็อตสุดท้าย จะมีการตรวจรับอีกครั้งในวันที่ 22 ก.ย.นี้ โดยจะทยอยส่งให้กับหน่วยบริการในเขต 1, 2, 3, 8, 9 และเขตที่ 10 ต่อไป
นพ.จเด็จกล่าวต่อไปว่า จากการประชุมติดตามการแจก ATK เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังมีประเด็นจุดรับชุดตรวจ ATK โดยใน กทม.มีปัญหาจำนวนร้านยาที่เข้าร่วมโครงการไม่รองรับในบางพื้นที่ ได้แก่ เขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง และอ่อนนุช จะมีการปรับเปลี่ยนโดยกระจายผ่านคลินิกชุมชนอบอุ่นในพื้นที่มากขึ้น ส่วนในต่างจังหวัดล่าสุดทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายมอบให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ช่วยกระจายชุดตรวจในชุมชน ตลาด ขนส่งสาธารณะ ซึ่งจะช่วยทำให้ประชาชนในต่างจังหวัดมีความสะดวกในการรับชุดตรวจเพิ่มมากขึ้น
นอกจากประเด็นข้างต้นแล้ว จากข้อมูลรายงานการรับชุดตรวจ พบว่า ประชาชนที่รับชุดตรวจมีการบันทึกผลตรวจเข้ามาในระบบเพียง 249 ราย ในจำนวนนี้มีผลเป็นบวก 2 ราย ซึ่งจะรีบติดตามเพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษา พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่รับไปแล้ว ขอให้รีบตรวจหาเชื้อโดยเร็ว เพื่อที่จะได้เข้าสู่ระบบติดตามและเฝ้าระวัง ที่จะมีผลต่อการลดการแพร่ระบาดในประเทศ
“ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่รับชุดตรวจไปแล้ว ขอความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยเร็ว และรายงานผลการตรวจผ่านระบบเป๋าตัง เพื่อที่จะนำไปสู่การรักษาและลดการแพร่ระบาดต่อไป” เลขาธิการ สปสช.กล่าว
นพ.จเด็จกล่าวต่อว่า ส่วนสายด่วน สปสช. 1330 ที่มีการเปิดช่องทางกด 17 เพื่อให้ประชาชนติดต่อสอบถามข้อมูลการรับชุดตรวจ เมื่อวานนี้มีประชาชนโทรสายด่วน สปสช. 1330 กด 17 จำนวน 366 สาย จากสายทั้งหมดที่โทรเข้ามาจำนวน 4,700 ราย ส่วนใหญ่เป็นการสอบถามวิธีการรับ การลงทะเบียน เงื่อนไข และจุดรับ รวมถึงปัญหาชุดตรวจที่ยังส่งไม่ถึงหน่วยบริการ
“การกระจายชุดตรวจไปยังหน่วยบริการที่ล่าช้านี้ สปสช.ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เนื่องจากขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานที่ต้องมีความละเอียดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้เร่งให้มีการกระจาย ATK ไปยังหน่วยบริการทั่วประเทศโดยเร็วที่สุด” เลขาธิการ สปสช.กล่าว