‘นักไวรัสวิทยา’ แย้ม วัคซีนโควิดฝีมือคนไทย ทดสอบในคนแล้ว พบกระตุ้นภูมิดีกว่า ‘ซิโนแวค-ซิโนฟาร์ม’

‘นักไวรัสวิทยา’ แย้ม วัคซีนโควิดฝีมือคนไทย ทดสอบในคนแล้ว พบกระตุ้นภูมิดีกว่า ‘ซิโนแวค-ซิโนฟาร์ม’

เมื่อวันที่ 22 กันยายน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

ผลการทดสอบวัคซีน NDV-HXP-S เฟส 1/2 ในอาสาสมัครคนไทย โดยองค์การเภสัชกรรม ร่วมกับ ม.มหิดล ออกมาเผยแพร่แล้ววันนี้ วัคซีนชนิดนี้เป็นไวรัสนิวคาสเซิลที่เพิ่มปริมาณได้ดีในไข่ไก่ฟัก และ ไวรัสชนิดนี้ผ่านการปรับพันธุกรรมให้มีการแสดงออกของโปรตีนสไปค์ของไวรัสโรคโควิด-19 บนผิวอนุภาคของไวรัส ดังนั้น ไวรัสที่เพิ่มปริมาณได้ในไข่ไก่จะมีโปรตีนสไปค์ติดออกมาด้วย ไวรัสจะถูกทำให้เสียสภาพไม่สามารถติดเข้าสู่เซลล์ได้อีก แต่โปรตีนสไปค์จะถูกสกัดออกมาเป็นวัคซีน ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของวัคซีนชนิดนี้คือโปรตีนสไปค์ที่ออกแบบให้มีความเสถียรภาพสูงกว่าโปรตีนที่พบในไวรัสตามธรรมชาติ ดังนั้น จึงเชื่อว่าโปรตีนสไปค์ของวัคซีนรูปแบบนี้จะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีกว่า โปรตีนสไปค์ที่สกัดมาจากไวรัสจากธรรมชาติอย่าง SinoVac หรือ Sinopharm

การทดสอบในอาสาสมัครคนไทยใช้ปริมาณของโปรตีนสไปค์ 3 ขนาดคือ 1, 3 และ 10 ไมโครกรัม โดยมีการให้สารกระตุ้นภูมิชนิด CpG1018 ในกลุ่มโดสต่ำด้วย ผลการวัดภูมิคุ้มกันชนิดแอนติบอดี พบว่าอาสาสมัครในทุกกลุ่มสามารถตรวจวัดแอนติบอดีต่อสไปค์ได้ 100% ที่ 43 วันหลังได้รับวัคซีนครบโดส โดยระดับแอนติบอดีที่ยับยั้งไวรัสได้ สูงขึ้นตามปริมาณโปรตีนในวัคซีนที่ฉีด ค่า Neutralizing antibody ต่อไวรัส Wuhan อยู่ในระดับสูง แต่ เมื่อทดสอบกับไวรัสสายพันธุ์หนีภูมิดีอย่าง Beta จะเห็นปริมาณแอนติบอดีตกลง

Advertisement

จากข้อมูลผลข้างเคียงของแต่ละปริมาณวัคซีนที่ใช้ ทีมวิจัยสรุปว่า การทดสอบเฟส 2 จะใช้ปริมาณแอนติเจนที่ 3 ไมโครกรัม แบบมีและไม่มี CpG1018 … นับเป็นผลการทดสอบวัคซีนโควิด-19 เฟสหนึ่งในมนุษย์ ที่ทีมวิจัยคนไทยภาคภูมิใจครับ
https://www.medrxiv.org/content/10.1101/2021.09.17.21263758v1

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image