สธ.เผยผลค้นภูเก็ต ตรวจเอทีเค 2 วัน 4,174 คน พบผลบวก 5.07% ยันไม่กระทบ ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’

สธ.เผยผลค้นภูเก็ต ตรวจเอทีเค 2 วัน 4,174 คน พบผลบวก 5.07% ยันไม่กระทบ ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

เมื่อวันที่ 23 กันยายน นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่เชิงรุก ของซีซีอาร์ ทีม (CCR Team) จากเขตสุขภาพที่ 11-12 จำนวน 9 ทีม กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชนที่พบคลัสเตอร์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ใน จ.ภูเก็ต ผลปฏิบัติการวันที่ 21-22 กันยายน 2564 รวม 2 วัน ตรวจเชื้อไป 4,174 คน พบผลบวก 212 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 5.07 ส่วนใหญ่เข้ารับการดูแลในระบบ HI/CI โดยผู้ที่มีอาการได้จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ทันที ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาเร็ว ลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มแรงงานและคนในชุมชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน 538 คน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง

นพ.ยงยศ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.ภูเก็ต นั้น ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวที่เคลื่อนย้ายเข้ามาทำงานภายในพื้นที่และยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ไม่ใช่นักท่องเที่ยวจากโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมโครงการฯ เดินทางเข้ามารวม 35,169 คน พบผู้ติดเชื้อเพียง 101 คน ยืนยันว่าไม่กระทบต่อภาพรวมการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวจากโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เนื่องจากรัฐบาลได้ออกแบบรูปแบบการท่องเที่ยวและมีมาตรการทางสาธารณสุขที่รัดกุม เช่น การคัดกรอง การตรวจหาเชื้อ การเข้าพำนักในสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ ตามระยะเวลาที่กำหนด และนักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอย่างเคร่งครัด

Advertisement

“สธ.จะเร่งรัดการควบคุมโรคภายใน จ.ภูเก็ต ให้ได้โดยเร็ว และจะฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ฉีดไปแล้วเกือบร้อยละ 80 ของประชากรเป้าหมาย รวมถึงนัดหมายให้ประชาชนบางส่วนที่ครบกำหนดเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นในเข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มระดับภูมิคุ้มกัน รวมถึงสื่อสารให้คนในพื้นที่เข้มงวดตามมาตรการป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) และคิดว่าคนรอบข้างเสมือนเป็นผู้ติดเชื้อ เพื่อความปลอดภัยตนเอง ชุมชน สังคม นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้อย่างปลอดภัย คนในพื้นที่ใช้ชีวิตปลอดภัยภายใต้รูปแบบนิว นอร์มอล (New Normal) และเป็นจังหวัดต้นแบบของการเปิดประเทศให้กับจังหวัดอื่นๆ ต่อไป” นพ.ยงยศ กล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image