อุดรฯฉีดวัคซีน 608 ทะลุ 60% เดินหน้าลุยฉีดซิโนแวคเข็ม 1 ให้ประชาชนทั่วไป บูสต์แอสตร้าเซนเนก้าเข็ม 3 ให้ผู้จองไว้วันแรก ขณะยอดติดเชื้อเพิ่มขึ้น ต้องงัดสารพัดมาตรการสู้ แต่ต้องชะลอแจก ATK เพื่อเตรียมที่กักตัว-รพ.สนามรองรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่อาคารกิจกรรมนักศึกษา มรภ.อุดรธานี ศูนย์ฉีดวัคซีนอุดรธานี จัดให้การการฉีดวัคซีนเข้มแรก สูตรซิโนแวค+แอสตร้าฯ ด้วยการวอล์กอิน สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป ทำให้มีนักศึกษา คนวัยทำงาน เดินทางมาเข้าคิวฉีดต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีผู้สูงอายุมาบางส่วน ซึ่งจะมีไปถึงวันเสาร์ที่ 2 ต.ค.นี้ นอกจากนนี้ยังมีการนัดหมาย การฉีดวัคซีนแอสตร้าฯเข็ม 2 และการฉีดแอสตร้าฯเข็ม 3 ที่ลงทะเบียนไว้ในละดับที่ 1-900 เป็นชุดแรก
เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข (สสจ.) อุดรธานี พญ.พัชริดา กลิ่นพะยอม อายุรแพทย์ รพ.ศูนย์อุดรธานี ร่วมแถลงสถานการณ์โควิด-19 พื้นที่อุดรธานี ผ่านโปรแกรมซูมว่า สถานการณ์อุดรฯไม่น่าไว้วางใจ ขณะที่ภาพรวมของประเทศลดลง แต่ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา อุดรธานีพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงถึง 578 ราย เป็นการติดเชื้อในจังหวัด 490 ราย ติดเชื้อมาจากนอกจังหวัด 88 ราย เกิดผู้สัมผัสเสียงสูง 419 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 12,792 ราย หายป่วยสะสม 10,837 ราย
มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 6 ราย ทั้งหมดยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เป็นกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง 7 โรค โดยมี 1 ราย เป็นผู้ป่วยติดเตียงเสียชีวิตที่บ้าน ติดจากหลานที่ดูแลโดยไม่รู้ตัว ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 98 ราย เป็นชาย 52 ราย หญิง 46 ราย เป็นผู้สูงอายุ 47 ราย อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคประจำตัว 44 ราย ไม่มีโรคประจำตัว 7 ราย หญิงตั้งครรภ์ 1 ราย ไม่ได้รับวัคซีน 96 ราย รับวัคซีน 2 ราย เป็นแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก 1 ราย และชิโนแวคเข็มแรก 1 ราย
สำหรับการแพร่ระบาดในเรือนจำกลางอุดรธานี พบติดเชื้อรายแรกตั้งแต่ 27 ส.ค.64 หรือผ่านมาแล้ว 1 เดือนพอดี พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 57 ราย หลังจากไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมา 2 วัน รวมผู้ติดเชื้อ 4,991 ราย หายป่วยสะสม 3,505 ราย นอนรักษาตัวที่ รพ.สนาม 1,461 ราย รักษาตัวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี 23 ราย เสียชีวิต 2 ราย (จากจำนวนผู้ต้องขังพบเชื้อวันแรก 5,084 ราย ไม่รับผู้ต้องขังเข้าไปเพิ่มเติม โดยฝให้ส่งไปที่เรือนจำ จ.หนองบัวลำภู แต่มีการปลอยผู้พ้นโทษ ออกมากักตัวภายนอกอีก 14 วัน
นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อกระจายไป 12 อำเภอ จากคลัสเตอร์ใหญ่ผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง จากตลาดไทยอิสาณ ในเขต ทน.อุดรธานี ได้กระจายออกไปสู่ตลาดใน ทน.อุดรธานี , อ.เมือง, อ.บ้านดุง, อ.กุดจับ และ อ.บ้านผือ กระจายออกไปกลุ่มอาชีพเกี่ยวข้องกับตลาด และในระดับครอบครัว-คนใกล้ชิด มีลักษณะเป็นกลุ่มก้อน และพบว่าผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเกือบทั้งหมด จะกลายเป็นผู้ติดเชื้อในที่สุด และเกิดผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต่อไปอีก ขณะที่ยังมีติดเชื้อกลุ่มก้อน จะการเดินทางจากนอกพื้นที่ อาทิ สนง.ปศุสัตว์ อ.วังสาหมอ ติดเชื้อไป 33 ราย
“ได้ปรับแผนเริ่มจากมาตรการตลาด ใช้มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม 6 ข้อ และมาตรการด้านบุคคล 6 ข้อ เริ่มนำมาใช้วันนี้ที่ตลาดไทอิสาณ และขยายไปในทุกตลาด, การเน้นย้ำมาตรการส่วนบุคคล งดการตั้งวงคุย-กินข้าว-ดื่มเหล้า, ออกหนังสือคำสั่งให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกักตัว หากกักตัวไม่ได้ หรือไม่ได้กักตัว ให้นำเข้ากักตัวใน LQ, ให้สถานประกอบการยึดแนวทางฟรีเซตติ้ง ของกรมอนามัย, ให้โรงงานฯยึดแนวบัพเบอร์ และหากพบตรวจ ATK พบติดเชื้อให้นำเข้า รพ.ทันทีไม่ต้องรอ PCR ”
นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า อุดรธานีได้เลื่อนการแจก ATK ออกไปก่อน 3-4 วัน เพื่อเตรียมสถานที่กักตัว โรงพยาบาลสนาม และโรงพยาบาล รองรับผู้ตรวจแล้วมีผลติดเชื้อ จะต้องเข้ารักษาทันทีเพื่อลดสัมผัสเสียงสูง ที่คาดว่าจะพบผู้ติดเชื่อเพิ่มขึ้น ส่วนการฉีดวัคซีนอุดรฯฉีดกลุ่มเสียง 608 ฉีดไปแล้ว 60.4 % ขณะภาพรวมฉีดเข้มแรกไปแล้ว 43.5% ในสัปดาห์นี้จึงทำการฉีดปูพรมเข็มแรก กลุ่มประชาชนทั่วไป ที่ศูนย์ฉีด มรภ.อุดรธานี ฉีดเข็มแรก “วอล์กอิน” ขอให้ลูกหลานที่มาฉีด พาผู้สูงอายุมาด้วยก็ดี ส่วนเข็ม 2 และเข็ม 3 ฉีดตามนัดหมาย ขณะที่หลายอำเภอก็วอล์กอินเช่นกัน
