‘นักไวรัสวิทยา’ ยกเคสสิงคโปร์ป่วยโควิดพุ่ง หลังฉีดวัคซีนไปกว่า 84%

‘นักไวรัสวิทยา’ ยกเคสสิงคโปร์ป่วยโควิดพุ่ง หลังฉีดวัคซีนไปกว่า 84%

เมื่อวันที่ 29 กันยายน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า

สถานการณ์ในสิงคโปร์เมื่อประชากรมากกว่า 84% ได้วัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ และ เคสพุ่งสูงขึ้นมากกว่าก่อนที่ประชากรได้รับวัคซีนครบจำนวนดังกล่าว อาจเกิดจากระดับภูมิคุ้มกันในประชากรที่เริ่มตกลง และ ไวรัสเดลต้าสามารถติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายคนที่มีภูมิที่ลดลงได้มากขึ้น
แต่ตัวเลขที่น่าสนใจมากคือ ในช่วง 28 วันที่ผ่านมา ทาง สธ.ของสิงคโปร์เก็บข้อมูลจากผู้ติดเชื้อ 21,000+ คน พบว่า 98% คือกลุ่มที่มีอาการน้อย หรือแทบจะไม่มีอาการ มี 382 คน (1.7%) ต้องใช้ oxygen มี 41 คน (0.2%) เข้า ICU และมี 23 คน (0.1%) เสียชีวิต ทั้งนี้ลองนำตัวเลขมาวิเคราะห์ดู จะพบว่า ในกลุ่มอาการหนักมีคนที่ได้วัคซีนครบ 51.3% และไม่ครบหรือยังไม่ได้ฉีด 48.7% ค่าประสิทธิภาพของวัคซีนต่อการป้องกันอาการหนักตอนนี้จะได้ 76.9% ในกลุ่มเสียชีวิตได้วัคซีนครบ 34.8% และไม่ครบหรือยังไม่ฉีด 65.2% ค่าประสิทธิภาพของวัคซีนต่อการป้องกันการเสียชีวิตตอนนี้อยู่ที่ 88.3%
ตัวเลขนี้เป็น real world data ที่จะช่วยให้เราเห็นภาพประเทศไทยในช่วงที่การฉีดวัคซีนถึงเป้าหมายที่ต้องการแล้วครับ การติดเชื้ออาจจะขึ้นเป็นหมื่นๆ ได้อีกแน่นอน แต่การป่วยหนักป่วยตายจะน้อยลง ทั้งนี้ วัคซีนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้ว มาตรการอื่นๆ คงอาจจะจำเป็น เพราะการปล่อยให้ไวรัสแพร่ต่อได้มากๆ ถึงแม้อาการจะไม่มาก เป็นการเปิดโอกาสให้ไวรัสเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าไวรัสไปต่อมากไม่ได้แล้ว…แต่ผมยังไม่อยากเชื่อจนกว่าจะเห็นด้วยตัวเองครับ
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image