สธ.แจงเหตุยอดฉีดวัคซีนโควิดวันเดียวพุ่ง 2.2 ล้านโดส ยันเคลียร์ฐานข้อมูล 1 ต.ค.
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงรายงานสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า วันนี้เป็นวันแรกของปีงบประมาณ 2565 ตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในระบบแดชบอร์ด (Dashboard) จึงมีการปรับฐานข้อมูล เนื่องจากช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการเข้าถึงวัคซีนในชุมชนมากขึ้น มีการระดมฉีดวัคซีนในวันที่ 24 กันยายน ให้ได้เกิน 1 ล้านโดส ตัวเลขที่ตัดในวันนั้น เวลา 20.00 น. ได้ 1.3 ล้านโดส โดยเป็นการฉีดในทุกภาคส่วน ฉีดในพื้นที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ชุมชน ซึ่งอาจมีข้อมูลตกหล่น จึงปรับฐานข้อมูล ก็มีการตรวจสอบข้อมูลให้สมบูรณ์ให้เรียบร้อย สรุปการฉีดวัคซีนโควิด-19 เฉพาะวันที่ 30 กันยายน 588,205 โดส ส่วนข้อมูลที่ปรับฐานตกหล่นเพิ่มอีก 1.7 ล้านโดส ทำให้ตัวเลขรายงานวันนี้ 2.28 ล้านโดส
“อย่างไรก็ตาม ฉีดสะสมแล้ว 53.7 ล้านโดส ครอบคลุมเข็มที่ 1 จำนวน 32 ล้านโดส คิดเป็น ร้อยละ 45 ของประชากร ซึ่งเป้าหมายเดือนกันยายน ที่เราอยากฉีดทุกกลุ่มประชากรให้ได้ 50 ล้านโดส ก็อาจไม่เป็นตามเป้า แต่เชื่อว่าปริมาณวัคซีนที่มีและศักยภาพการฉีด ในเดือนตุลาคมนี้ เราจะถึงเป้าหมายได้ ขณะที่เข็มที่ 2 จำนวน 19.8 ล้านโดส คิดเป็นร้อยละ 27” นพ.เฉวตสรร กล่าวและว่า
ส่วนข้อมูลการวัคซีนโควิด-19 รายพื้นที่ พบว่า จังหวัดสีแดงเข้ม 29 จังหวัด ที่ได้รับจัดสรรวัคซีนมากในช่วงแรก เพื่อลดการเสียชีวิต ฉีดเข็ม 1 ฉีดแล้ว ร้อยละ 60 เข็มที่ 2 อีกร้อยละ 33.5 ส่วนพื้นที่อื่น 48 จังหวัด เข็ม 1 ฉีดแล้ว ร้อยละ 31.9 ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ก็จะใกล้เคียงกันเรื่อยๆ ขณะที่ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ในจังหวัดสีแดงเข้ม ฉีดแล้ว ร้อยละ 67.2 แต่อยากให้ถึง ร้อยละ 70 คาดว่าเดือนตุลาคมนี้ จะได้ตามเป้า ส่วนอีก 48 จังหวัด ฉีดแล้ว ร้อยละ 53.2
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ แผนการฉีดวัคซีนเดือนตุลาคม วางไว้ว่าทุกจังหวัดต้องฉีดคนไทยและต่างชาติให้ได้จังหวัดละ ร้อยละ 50 ส่วนอำเภอที่จะเน้นให้ครอบคลุมมากขึ้น ร้อยละ 70 และมีต้นแบบโควิด ฟรี แอเรีย (COVID Free Area) ให้ครอบคลุมอย่างน้อย 1 พื้นที่ ซึ่งต้องฉีดให้ครอบคลุมถึง ร้อยละ 80
