ศบค.ลดพื้นที่สีแดงเข้ม-ปลดล็อกกิจการ-กิจกรรมเพิ่ม เริ่ม 16 ต.ค.นี้ ผับ-บาร์-คาราโอเกะ รอรอบหน้า

ศบค.ลดพื้นที่สีแดงเข้ม-ปลดล็อกกิจการ-กิจกรรมเพิ่ม เริ่ม 16 ต.ค.นี้ ผับ-บาร์-คาราโอเกะ รอรอบหน้า

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาการปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์และมาตรการการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 พิจารณาจากอัตราการติดเชื้อในพื้นที่ควบคุมสูงสุดในตอนนี้ นำมาเป็นตัวเลขพิจารณา ถ้ามีผู้ป่วยมากกว่า 100 รายต่อวัน ใน 1 สัปดาห์ หรือเฉลี่ยใน 1 สัปดาห์ มากกว่า 50 รายต่อวัน ถือว่าเป็นพื้นที่สูงสุดและเข้มงวด รองลงมา 20-50 รายต่อวัน เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ใน 1 สัปดาห์ น้อยกว่า 20 รายต่อวัน เป็นพื้นที่ควบคุม น้อยกว่า 10 รายต่อวันเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง เป็นต้น

  • ปรับระดับพื้นที่เสี่ยงใหมเริ่ม 16 ต.ค.นี้

โดยวันที่ 16 ตุลาคม 2564 นี้จะปรับพื้นที่ใหม่จากพื้นที่สีแดงเข้มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จาก 29 จังหวัดเหลือ 23 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครศรีธรรมราช นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา ระยอง ราชบุรี สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสระบุรี

พื้นที่สีแดงพื้นที่ควบคุมสูงสุด จาก 37 จังหวัด เหลือ 30 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครราชสีมา นครสรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี มหาสารคาม ระนอง ลพบุรี ศรีสะเกษ สตูล สระแก้ว สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อ่างทอง อุดรธานี อุบลราชธานี และเพชรบูรณ์

Advertisement

พื้นที่สีส้มพื้นที่ควบคุม จาก 11 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กำแพงเพชร นครพนม น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สุโขทัย หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี และอำนาจเจริญ ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสีเหลือง และสีเขียวยังคงไม่มีอยู่เหมือนเดิม

  • ผ่อนปรนกิจการ-กิจกรรมเพิ่ม

นอกจากนี้ ด้านมาตรการควบคุมในพื้นที่ ก็ได้มีการปรับเงื่อนไขสำหรับ ใน 5 กิจการ/กิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 1.การห้ามออกนอกเคหสถาน จากเดิม 22.00-04.00 น. เป็น 23.00-03.00 น. อย่างน้อย 15 วัน เพื่อให้สภาพของการประกอบการผู้ทำมาหากินได้กลับมาสู่วิถีชีวิตเดิม 2.ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือตลาดนัด จากเดิมเปิดดำเนินการได้ถึง 21.00 น. จำหน่ายเฉพาะเครื่องอุปโภคบริโภค ให้เปิดดำเนินการได้ถึง 22.00 น.จำหน่ายได้ทุกประเภทสินค้า เปิดบริการ เครื่องเล่น สวนสนุกได้ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร

3.กิจการอื่นๆ ที่เปิดทำการโดยกำหนดเวลา เช่น ธุรกิจโรงภาพยนตร์ หรือฉายภาพยนตร์ ร้านอาหาร โรงละคร โรงมหรสพ เช่น ลิเก งิ้ว ลำตัด หรือการแสดงพื้นบ้านอื่นๆ สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า จากเดิมเปิดถึง 21.00 น. เป็นเปิดตามเวลาปกติแต่ไม่เกิน 22.00 น. ยังเน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง 4.สถานดูแลผู้สูงอายุ จากเดิมให้เฉพาะที่อยู่ประจำ ไม่เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับ เป็นให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับได้ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร บุคลากรได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และสุ่มตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ ผู้ใช้บริการต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ 5.การขนส่งสาธารณะทุกประเภท จากเดิมให้ความจุ 75% ของยานพาหนะปรับเพิ่มความจุตามความสามารถของยานพาหนะและคณะกรรมการผู้กำกับด้วย

  • ศูนย์แสดงสินค้า-ศูนยืประชุมเปิดได้แบบจำกัดคน

ส่วนศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าและโรงแรม เปิดได้โดยให้เคร่งครัดมาตรการโควิด ฟรี เซ็ตติ้ง จำกัดจำนวนคนไม่เกิน 500 คน เว้นระยะห่าง 1 เมตร จัดเลี้ยงอาหารแบบแยกชุด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา กำหนดเวลาประชุมไม่เกินช่วงละ 2 ชั่วโมง ให้มีเวลาพักและเปิดระบายอากาศของห้องประชุม เปิดตามเวลาปกติแต่ไม่เกิน 22.00 น. และต้องขออนุญาตคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร กรณีเกิน 50 คน

ส่วนทุกพื้นที่มีปรับมาตรการ 1.ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดบริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม ที่เล่นเป็นรายบุคคลหรือแข่งเป็นคู่เท่านั้น สวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังไม่เปิดบริการ และยังไม่เปิดบริการสวนน้ำ สวนสนุกทุกพื้นที่

2.สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ เปิดได้ตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น.ส่วนมาตรการอื่นๆยังคงเดิม

  • จัดกิจกรรมรวมกลุ่มได้

3.การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ปรับเพิ่มการรวมกลุ่ม ตามระดับพื้นที่ตั้งแต่พื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวดถึงเฝ้าระวัง ดังนี้ จากเดิม 25 เป็น50 คน จากเดิม 50 เป็น100 คน จากเดิม 100 คน เป็น200 คน จากเดิม 200 เป็น300 คน จากเดิม 300 เป็น 500 คน

  • ผับ-บาร์-คาราโอเกะรอรอบหน้า

4.สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังไม่ให้เปิด ยังต้องขอให้มีการเตรียมการไว้ก่อน พื้นที่ต้องสะอาด โปร่งโล่ง ให้ผู้ประกอบการทำมาตการภายในเตรียมไว้ก่อน ในเดือนถัดๆไปจะมีการเร่งรัดดำเนินการให้เปิด แต่ตอนนี้ยังมีความเสี่ยงสูง จะเร่งรัดกำหนดมาตรการสำหรับเตรียมการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image