สธ.เปิดฉากทัศน์โควิดไทยหลังเปิด ปท. 1 พ.ย. ไม่ระวัง! ติดเชื้อซ้ำ

สธ.เปิดฉากทัศน์โควิดไทยหลังเปิด ปท. 1 พ.ย. ไม่ระวัง! ติดเชื้อซ้ำ

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน แถลงคาดการณ์สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย หลังเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ว่า ตามมติคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ที่ประชุมไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 ได้แนะนำให้ผู้ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม สามารถกระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์หลังฉีดเข็มที่ 2 ครบแล้ว 6 เดือน โดยให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้มีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสโลก โดยในวันนี้ (28 ตุลาคม 2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนไฟเซอร์แล้ว

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ขณะที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในภาพรวมขณะนี้ ยังมีการติดเชื้อต่อเนื่อง แต่อัตราผู้ป่วยปอดอักเสบลดลงเรื่อยๆ ในรอบ 2-3 สัปดาห์ ส่วนผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 100 ราย มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังแกว่งตัวอยู่ บางวันสูงขึ้น ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ฉากทัศน์การรระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยหลังเปิดประเทศ ถ้ายังร่วมมือกัน ค่าการระบาดจะอยู่ที่ร้อยละ 25 หรือเทียบกับก่อนล็อกดาวน์แนวโน้มก็จะมีการติดเชื้อลดลง ซึ่งตรงนี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกับ 4 มาตรการหลักอย่างเข้มข้น คือ ป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด มาตรการโควิด ฟรี แอเรีย ตรวจ ATK เฝ้าระวังกลุ่มต่างด้าว และฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมาย

“แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ ปล่อยให้อัตราการแพร่กระจายสูงเหมือนก่อนล็อกดาวน์ ซึ่งอาจจะกลับมาถึงวันละ 1 หมื่นราย แต่จำนวนการติดเชื้อไม่ใช่ตัวชี้วัดความรุนแรงของสถานการณ์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูระบบว่า พร้อมรองรับหรือไม่ คนยังสามารถเข้ารับบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้อย่างเพียงพอ” นพ.เฉวตสรร กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image