‘หมอโอภาส’ ยันโอไมครอน ส่อสัญญาณพาโควิดเข้าสู่โรคประจำถิ่น ทั่วโลกไม่พบความรุนแรง ไร้คนตายจากไวรัสกลายพันธุ์
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในปี 2565 เราตั้งเป้าตามนโยบายของรัฐบาลว่า คนไทยต้องได้รับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดส ซึ่งจะมีการหารือรายละเอียดในการประชุม ศบค. วันที่ 13 ธ.ค.64 เพื่อให้คนไทยเข้ามารับวัคซีนตามความสมัครใจให้ครบมากที่สุด อย่างน้อยก็เป็นการปูพื้นฐานวัคซีน ขณะที่แนวโน้มโควิด-19 ดูเหมือนสถานการณ์ผ่อนคลายมากขึ้นทั่วโลกเพราะฉีดวัคซีนมากขึ้นแล้ว
“มองในแง่ดีคือสถานการณ์ค่อยๆ กลับไปดีขึ้น แล้วเราก็คงกลับไปใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติที่สุด ยกเว้นเกิดการกลายพันธุ์หน้ามือเป็นหลังมือ มีความรุนแรง ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าถึงขนาดนั้น แต่ยังไงก็ต้องมีความระวังอยู่ เพราะข้อมูลโควิดเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว เราติดตามเป็นระยะ” นพ.โอภาสกล่าว
เมื่อถามว่ากรณีเชื้อโอไมครอนหลบภูมิคุ้มกันได้ว่า ต้องดูเรื่องของวัคซีน เพราะการประเมินว่าติดเชื้อมากหรือน้อย ประเมินว่าวัคซีนจะได้ผลหรือไม่ ต้องใช้ระยะเวลา บอกเร็วไปโอกาสผิดก็เยอะ เพราะโควิดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราต้องติดตามกันยาวๆ แต่ข้อมูลระบาดวิทยาในขณะนี้เราเชื่อว่าโอไมครอน น่ามีมาตั้งแต่ต้น พ.ย.64 เป็นอย่างน้อย เทียบรูปแบบการระบาดกับเดลต้าที่เมื่อเข้าอินเดียก็ระบาดไปเยอะมาก แต่โอไมครอนที่อาจเกิดมา 2 เดือนแล้ว การระบาดก็ถือว่าไม่เยอะมากนัก และน่าจะไม่รุนแรงมากนักเพราะยังไม่มีผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียว อย่างไรก็ตาม หากองค์การอนามัยโลกจะประกาศอะไรต้องได้รับการกลั่นกรองให้รอบด้าน ซึ่งข้อมูลน่าจะออกไปในแนวนี้
นพ.โอภาสกล่าวว่า สำหรับการลักลอบเข้าประเทศ เป็นปัญหาที่เราเจอหลายครั้ง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือหลายภาคส่วน โดย 3 ขั้นตอนที่จะลักลอบเข้ามา คือ 1.มีคนพาเข้ามา ซึ่งผิดกฎหมาย ฝ่ายความมั่นคงจะดำเนินการ 2.คนให้ที่อยู่ ถือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ ดังนั้น ถ้าผิดกฎหมายก็ไม่ควรทำ และ 3.คนให้ที่งานทำ เพราะไทยยังต้องการแรงานมาก เราก็ขอให้ทำถูกกฎหมาย ทั้งนี้ นโยบายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กำชับว่าแม้เป็นแรงงานต่างด้าวก็สามารถรับวัคซีนในไทยได้เพื่อประโยชน์ของทุกคนในแผ่นดินไทย เพื่อสร้างความปลอดภัย ขอความร่วมมือว่า ตอนนี้เรามีวัคซีนในทุก รพ. หากเจอใครยังไม่ฉีดก็ให้พาเข้าไปฉีดได้เลย ส่วนคนที่ฉีดวัคซีนครบในเดือน ส.ค.64 ทาง สธ.จะประกาศให้มารับบูสเตอร์โดสเข็ม 3 ในเดือนนี้ได้เลย ส่วนคนที่ฉีดครบในเดือน ก.ย.ก็จะให้มารับในเดือน ม.ค.65 ไล่กันไปเพื่อไม่ให้ภูมิคุ้มกันตกเกินไป
เมื่อถามถึงความเห็นนักวิชาการหลายท่านระบุว่า โอไมครอนเป็นสัญญาณที่ดี ที่จะทำให้โควิดกลายเป็นโรคประจำถิ่น นพ.โอภาสกล่าวว่า เท่าที่ดูข้อมูลจากประวัติการระบาดไข้หวัดใหญ่ ที่กลายพันธุ์ตลอดเวลา รวมถึงเมื่อติดเชื้อไปเรื่อยๆ ก็จะสร้างภูมิไปเรื่อยๆ ความรุนแรงจะค่อนๆ ลดน้อยลง ซึ่งขณะนี้โควิดก็กลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ และดูเหมือนความรุนแรงก็ลดลงเรื่อยๆ จากปัจจัยการติดเชื้อสร้างภูมิตามธรรมชาติ ฉีดวัคซีนที่มากขึ้น จึงดูเหมือนทำให้ความรุนแรงของโรคน้อยลง ซึ่งต้องดูกันยาวๆ ตอบเร็วไปโอกาสผิดสูง แต่แนวโน้มน่าจะเป็นไปเช่นนี้โดยเราต้องไม่ประมาท ต้องติดตามต่อเนื่อง
