เจออีก! โอมิครอนคลัสเตอร์ผัวเมียจากฝรั่งเศส ประวัติร่วมวงข้าวในกรุง เจอครอบครัวที่จ.เลย
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 8 ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 8 ว่า จากการติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ของเขตสุขภาพที่ 8 ข้อมูลใน 7 จังหวัด ภาคอีสานตอนบน ได้แก่ อุดรธานี สกลนคร นครพนม เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และ บึงกาฬ รวมประชากรกว่า 5 ล้านคน เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45 ราย เป็นคนในพื้นที่ 35 ราย และนอกพื้นที่เข้ามา 10 ราย ส่วนใหญ่ยังเป็นสายพันธุ์เดลต้า
“ตามที่เป็นข่าวคลัสเตอร์สถานปฏิบัติธรรม จ.บึงกาฬ ที่พบการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มพระภิกษุสงฆ์เกือบร้อยรูป ซึ่งตอนแรกเรากังวลว่าจะเป็นเชื้อโอมิครอน แต่เราได้ส่งตรวจสายพันธุ์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต 8 อุดรธานี พบว่า ทุกคนติดเชื้อเดลต้า ไม่พบเชื้อโอมิครอนในคลัสเตอร์ดังกล่าว ทางทีมสอบสวนโรคก็ได้ดำเนินการแยกกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงไว้แล้ว และอยู่ในระหว่างการรอตรวจหาเชื้อซ้ำ” นพ.ปราโมทย์ กล่าว
ผู้ตรวจราชการ สธ. เขตสุขภาพที่ 8 กล่าวว่า ขณะที่คลัสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโอมิครอนที่พบในเขตสุขภาพที่ 8 ขณะนี้มีรายงาน 2 เหตุการณ์ คือ 1.คลัสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับสามีภรรยา จ.กาฬสินธุ์ โดยชายอายุ 22 ปี จาก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เดินทางไปพบและติดเชื้อมา ตอนนี้ผลการตรวจสายพันธุ์เบื้องต้น (potential) เป็นโอมิครอน โดยเย็นวันนี้ (26 ธันวาคม 2564) จะมีผลยืนยันออกมาอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (High risk contact) จากรายดังกล่าวมี 7 ราย ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ 6 ราย ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสทุกคน และเด็กเล็ก 1 ราย ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเนื่องจากอายุไม่ถึงเกณฑ์ โดยเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 การตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ให้ผลลบทุกราย อยู่ระหว่างแยกกักตัวที่บ้าน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย (มท.) ดูแลอยู่ โดยกำหนดตรวจหาเชื้อซ้ำในวันที่ 30 ธันวาคมนี้
“ต่อมาเป็นอีกเหตุการณ์ คือ ครอบครัวหนึ่ง เป็นชายชาวฝรั่งเศส ภรรยาชาว จ.เลย และลูกอายุ 2 ขวบ รวมเป็น 3 คน เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 เดินทางถึงประเทศไทย ลงเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าโรงแรมกักตัวในกรุงเทพมหานคร ตรวจ RT-PCR เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 ผลตรวจเป็นลบ หลังจากนั้น ภรรยาจึงออกไปรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนประมาณ 10 คน ในร้านอาหารแห่งหนึ่งของพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งสามีและลูกรออยู่ที่โรงแรม หลังจากภรรยากลับมาที่โรงแรม ให้ข้อมูลว่า ไม่ได้ออกไปไหน ต่อมาวันที่ 19 ธันวาคม 2564 ครอบครัวดังกล่าวรวม 3 คน เดินทางโดยเครื่องบินกลับบ้านที่ อ.เอราวัณ จ.เลย เพื่อไปเยี่ยมแม่ โดยในวันที่ 22 ธันวาคม 2564 พ่อและพี่ชายเดินทางจาก อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู ไปเยี่ยมที่บ้านใน จ.เลย
จากนั้นมาวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ภรรยาทราบว่า เพื่อนที่ร่วมรับประทานอาหารด้วยกันที่กรุงเทพฯ ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากนั้น ตัวเอง สามี และลูก จึงไปตรวจหาเชื้อ ในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 และผลออกมาว่า สามีกับภรรยาติดเชื้อโควิด-19 แต่ลูกผลตรวจเป็นลบในครั้งแรก ขณะนี้กำลังกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อซ้ำ สำหรับสองสามีภรรยา ล่าสุดผลการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัส พบว่าเป็นเชื้อโอมิครอน อยู่ระหว่างการตรวจยืนยันอีกครั้ง แต่ครอบครัวนี้ได้ขอย้ายตัวเองไปรักษาที่ รพ.เอกชน ใน จ.อุดรธานี” นพ.ปราโมทย์ กล่าว
ทั้งนี้ นพ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ สธ.กำลังตามผู้ร่วมเดินทางโดยเครื่องบินในแถวที่มีความเสี่ยงตามที่กำหนดให้ตรวจหาเชื้ออยู่ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากสามีภรรยา รวม 4 คน คือ ลูก แม่ที่อยู่บ้านด้วยกันที่ จ.เลย พ่อและพี่ชาย ที่เดินทางไปเยี่ยม ก็กำลังกักตัวเพื่อรอผลการตรวจครั้งแรก
“ส่วนจะบอกว่า เพื่อนที่กินข้าวด้วยกันติดมาจากรายดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร ต้องมาสอบสวนโรคอีกครั้ง แต่เบื้องต้นเพื่อนก็ติดเป็นสายพันธุ์โอมิครอนเช่นกัน ส่วนรายละเอียดต้องรอการสอบสวนโรคก่อน” นพ.ปราโมทย์ กล่าวและว่า ทั้งนี้ สำหรับมาตรการที่เขตสุขภาพที่ 8 ดำเนินการคือ “VUCA” ที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ.ได้มอบหมายไว้ คือ V – Vaccine ซึ่งเขตฯ 8 เริ่มการฉีดเข็มกระตุ้น หรือเข็ม 3 ในกลุ่มเสี่ยงแล้ว โดยภาพรวมเขตฯ คนกลุ่มนี้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มมากกว่าร้อยละ 90 ส่วนคนทั่วไปก็นับห่างจากเข็มที่ 2 ประมาณ 3 เดือน ก็ให้เข้ามารับวัคซีนกระตุ้นได้ U – Universal Prevention การป้องกันตนเองสูงสุด สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและล้างมือทุกครั้งที่สัมผัสสิ่งของต่างๆ C – Covid-19 Free Setting โดยมาตรการภาพรวมประเทศ หากจะเข้าร่วมกิจกรรม ขณะนี้ก็มีการตรวจเรื่องวัคซีน ไปจนถึงผลการตรวจ ATK อยู่แล้ว ซึ่งเราก็นำมาปรับใช้ในพื้นที่ด้วย และ A – ATK สำหรับประชาชนทั่วไป ก็แนะนะให้ตรวจตามความเสี่ยง 5-7 วัน หรือตรวจก่อนเข้ากิจกรรมต่างๆ
