วันนี้!..’สธ.’ เปิด 3 ฉากทัศน์โควิดระบาดหลังปีใหม่ อัพเดตคลัสเตอร์ ‘โอมิครอน’
วันที่ 27 ธันวาคม กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะมีการประชุมอีโอซีในช่วงเช้าและช่วงบ่ายจะมีการแถลงข่าวอัพเดตฉากทัศน์ (scenario) การระบาดโควิด-19 หลังช่วงปีใหม่
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 27 ธันวาคม ช่วงเช้าในการประชุมอีโอซีกระทรวงสาธารณสุข จะมีการหารือถึงประเด็นต่างๆ รวมถึงมาตรการรับมือโควิด-19 และช่วงบ่ายจะมีการแถลงข่าวอัพเดตฉากทัศน์การระบาดโควิด-19 หลังปีใหม่ ซึ่งจะเป็นการคาดการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อเทียบกับการปฏิบัติตามมาตรการที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน
“ปกติเราจะทำใน 3 ฉากทัศน์คือ 1.สถานการณ์แย่ที่สุด (Worst Case Scenario) 2.ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้ (Plausible Scenario) และ 3.ฉากทัศน์ที่ดีที่สุด (Best Case Scenario) เพื่อดูว่าหากจะให้สถานการณ์ดีที่สุด ต้องทำอะไรบ้าง ปานกลางต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้เราออกมาตรการออกมาเป็นแนวทางให้ประชาชน” นพ.เกียรติภูมิกล่าว
ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางกรมฯ กำลังรวบรวมข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสของสัปดาห์ล่าสุด ซึ่งจะอัพเดตตัวเลขผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน และคลัสเตอร์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมกับแถลงฉากทัศน์ ทั้งนี้ สถานการณ์ล่าสุดจากประเทศอังกฤษที่ติดเชื้อโอมิ ครอนเป็นแสนราย แต่อัตราเสียชีวิตไม่มาก แต่ข้อสรุปเบื้องต้นคือ แพร่เร็วแน่นอน ส่วนคนที่เคยติดเชื้ออื่นหรือได้รับวัคซีนป้องกันมาแล้วก็แพร่ได้ แต่วัคซีนช่วยไม่ให้อาการรุนแรงได้
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 8 กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ของเขตสุขภาพที่ 8 ข้อมูลใน 7 จังหวัด ภาคอีสานตอนบน ได้แก่ อุดรธานี สกลนคร นครพนม เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และ บึงกาฬ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45 ราย เป็นคนในพื้นที่ 35 ราย และนอกพื้นที่เข้ามา 10 ราย ส่วนใหญ่ยังเป็นสายพันธุ์เดลต้า
“ตามที่เป็นข่าวคลัสเตอร์สถานปฏิบัติธรรม จ.บึงกาฬ ที่พบการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มพระภิกษุสงฆ์เกือบร้อยรูป ซึ่งตอนแรกเรากังวลว่าจะเป็นเชื้อโอมิครอน แต่ส่งตรวจสายพันธุ์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต 8 อุดรธานี พบว่าทุกคนติดเชื้อเดลต้า ไม่พบเชื้อโอมิครอนในคลัสเตอร์ดังกล่าว”นพ.ปราโมทย์กล่าว
ผู้ตรวจราชการ สธ. เขตสุขภาพที่ 8 กล่าวว่า ขณะที่คลัสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโอมิครอนที่พบในเขตสุขภาพที่ 8 มีรายงาน 2 เหตุการณ์ คือ 1.คลัสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับสามีภรรยา จ.กาฬสินธุ์ โดยชายอายุ 22 ปี จาก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เดินทางไปพบและติดเชื้อมา ตอนนี้ผลการตรวจสายพันธุ์เบื้องต้นเป็นโอมิครอน ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 7 ราย ตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ให้ผลลบทุกราย อยู่ระหว่างแยกกักตัวที่บ้าน จะตรวจหาเชื้อซ้ำในวันที่ 30 ธันวาคมนี้
นพ.ปราโมทย์กล่าวว่า อีกเหตุการณ์ คือ ครอบครัวหนึ่ง เป็นชายชาวฝรั่งเศส ภรรยาชาว จ.เลย และลูกอายุ 2 ขวบ รวม3 คน เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 เดินทางถึงประเทศไทย ลงเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าโรงแรมกักตัวในกรุงเทพฯตรวจ RT-PCR เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 ผลตรวจเป็นลบ หลังจากนั้น ภรรยาออกไปรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนประมาณ 10 คน ในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ ส่วนสามีและลูกอยู่ที่โรงแรม หลังจากภรรยากลับมาที่โรงแรม ไม่ได้ออกไปไหน ต่อมาวันที่ 19 ธันวาคม 2564 ครอบครัวดังกล่าวรวม 3 คน เดินทางโดยเครื่องบินกลับบ้านที่ อ.เอราวัณ จ.เลย เพื่อไปเยี่ยมแม่ โดยวันที่ 22 ธันวาคม 2564 พ่อและพี่ชายเดินทางจาก อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู ไปเยี่ยมที่บ้านใน จ.เลย
“จากนั้นวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ภรรยาทราบว่า เพื่อนที่ร่วมรับประทานอาหารด้วยกันที่กรุงเทพฯ ติดเชื้อโควิด หลังจากนั้น ตัวเอง สามี และลูก จึงไปตรวจหาเชื้อ ในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 และผลออกมาว่า สามีกับภรรยาติดเชื้อโควิด-19 แต่ลูกผลตรวจเป็นลบ ขณะนี้กำลังกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อซ้ำ สำหรับสองสามีภรรยา ล่าสุดผลการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัส พบว่าเป็นเชื้อโอมิครอน อยู่ระหว่างการตรวจยืนยันอีกครั้ง แต่ครอบครัวนี้ขอย้ายตัวเองไปรักษาที่ รพ.เอกชน ใน จ.อุดรธานี” นพ.ปราโมทย์กล่าว
นพ.ปราโมทย์กล่าวว่า ขณะนี้ สธ.กำลังตามผู้ร่วมเดินทางโดยเครื่องบินในแถวที่มีความเสี่ยงตามที่กำหนดให้ตรวจหาเชื้ออยู่ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากสามีภรรยา รวม 4 คน คือ ลูก แม่ที่อยู่บ้านด้วยกันที่ จ.เลย พ่อและพี่ชาย ที่เดินทางไปเยี่ยม กำลังกักตัวเพื่อรอผลการตรวจครั้งแรกส่วนเพื่อนที่กินข้าวด้วยกันเบื้องต้นก็ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเช่นกัน ส่วนรายละเอียดต้องรอการสอบสวนโรคก่อน
