โอมิครอนเลี่ยงยาก! ‘สาธิต’ เตรียมยกมาตรการ ‘เวิร์กฟรอมโฮม’ พิจารณาหลัง 4 ม.ค.

โอมิครอนเลี่ยงยาก! ‘สาธิต’ เตรียมยกมาตรการ ‘เวิร์กฟรอมโฮม’ พิจารณาหลัง 4 ม.ค. หวังช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อได้

เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 28 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเตรียมแผนรับมือเทศกาลปีใหม่ ว่าคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คงจะนำข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขมาหารือในที่ประชุม ครม.วันนี้ โดยทาง สธ.ได้จำลองฉากทัศน์และปัจจัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น พร้อมขอความร่วมมือประชาชนที่จะปฏิบัติตามมาตรการเพื่อให้สถานการณ์เป็นไปตามฉากทัศน์ที่จำลองไว้ แม้เชื้อโอมิครอนจะมีอาการไม่รุนแรง เราก็พยายามไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่น เพราะหากติดเชื้อจะเข้าสู่กระบวนการกักตัว จึงอาจกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในภาพรวมอยู่ดี หากช่วยกันทำให้ยอดติดเชื้อและผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดก็จะสามารถเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นเพื่อเปิดประเทศต่อได้

เมื่อถามว่าทางกระทรวง สธ.เตรียมมาตรการเวิร์กฟรอมโฮมไว้หรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า ทาง สธ.ได้เสนอมาตรการเวิร์กฟรอมโฮม โดยหลังวันที่ 4 มกราคม 2565 จะนำมาตรการมาประเมินอีกครั้ง ทั้งนี้ ช่วงเทศกาลปีใหม่คงหลีกเลี่ยงเชื้อโอมิครอนยากขึ้น และหากมีการรวมตัวและระบาดครั้งใหม่การเวิร์กฟรอมโฮมจะช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อได้ จึงต้องเฝ้าระวังไว้ก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำได้เลย โดยเฉพาะหน่วยงานราชการ อยากให้ทำงานที่บ้านให้มากที่สุด และหากเอกชนทำตามจะเป็นประโยชน์มาก

เมื่อถามย้ำว่าหลังปีใหม่ให้หน่วยงานราชการเวิร์กฟรอมโฮมใช่หรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า เป็นมาตรการที่ประกาศไปแล้วว่าขอความร่วมมือให้เวิร์กฟรอมโฮมมากที่สุด ทั้งราชการและเอกชน และตัวอย่างที่ผ่านมาการรวมตัว เช่น การทานข้าวด้วยกันก็ทำให้เกิดแพร่ระบาดได้ ดังนั้น เราต้องป้องกันให้ดีที่สุด

Advertisement

เมื่อถามว่าได้กำหนดระยะเวลาเวิร์กฟรอมโฮมหรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า หลังปีใหม่ไม่เกิน 2 อาทิตย์เราก็จะทราบตัวเลขการติดเชื้อและพบฉากทัศน์ที่เกิดขึ้น แต่หากร่วมช่วยปฏิบัติตามมาตรการดี และตัวเลขไม่ก้าวกระโดดจะทำให้มาตรการต่างๆ เบาลง

เมื่อถามว่าคาดการณ์พฤติกรรมของคนไทยช่วงปีใหม่อย่างไร และจะทำให้การแพร่ระบาดในประเทศไทยอยู่ในระยะใด นายสาธิตกล่าวว่า ความจริงจะปรากฏในเร็วๆ นี้ คาดว่าประมาณ 2 วันหลังปีใหม่ เพราะตัวเลขที่ปรากฏในปัจจุบันนั้นยังไม่มี เท่าที่ติดตามการปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting ก็ถูกละเลยไปพอสมควร ดังนั้น หลังปีใหม่จะพบตัวเลขที่แท้จริงว่าจะออกมาในฉากทัศน์ใด

เมื่อถามว่าจะไม่ซ้ำรอยเหตุการณ์ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาหรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า แม้จะมีผู้ติดเชื้อมากขึ้นก็จะไม่เป็นปัญหาเหมือนเดือนเมษายน เพราะอาการของเชื้อโอมิครอนจะไม่รุนแรง ส่วนพื้นที่รักษาตัวผู้ติดเชื้อที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนคาดว่าจะมีสัดส่วนติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ได้ประสานโรงพยาบาลในเครือข่าย กทม. และให้โรงพยาบาลเอกชนรับผู้ป่วยอาการหนักไป ส่วนการเปิดเรียนออนไซต์ก็เป็นส่วนปัจจัยที่เราต้องนำเรื่องนี้มาพิจารณาด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image