‘สธ.’ เปิดแนวปฏิบัติเตือนภัยระดับ 3 ห้ามเปิดผับบาร์ งดไป ตปท.

‘สธ.’ เปิดแนวปฏิบัติเตือนภัยระดับ 3 ห้ามเปิดผับบาร์ งดไป ตปท.

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการประกาศเตือนภัยโรคโควิด-19 และคำแนะนำประชาชน ว่า ขณะนี้ประเทศไทยยกระดับการเตือนภัยโควิด-19 ในระดับ 3 ซึ่งแบ่งเป็น 1.การไปสถานที่เสี่ยง ทุกคนงดเข้าสถานที่เสี่ยง คือ สถานบันเทิง โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (ศบค.) ไม่อนุญาตให้เปิดผับบาร์ คาราโอเกะ เลี่ยงการเข้าสถานที่ระบบปิด และมีคนแออัด 2.ร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 รวมถึงผู้ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ไม่ควรไปร่วมกิจกรรมที่มีคนหมู่มาก 3.การเดินทางข้ามจังหวัด คนกลุ่มเสี่ยง 608 รวมถึงผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ ก็ให้เลี่ยงการโดยสารรถขนส่งสาธารณะ

นพ.โอภาสกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมให้ความร่วมมือตรวจหาเชื้อด้วย ATK สำหรับการเดินทางมากกว่า 4 ชั่วโมงขึ้นไป พนักงานได้รับวัคซีนและตรวจหาเชื้อทุกคน และ 4.การเดินทางเข้าออกประเทศ กลุ่มเสี่ยง 608 รวมถึงผู้ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ ขอให้งดเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนคนทั่วไปก็ขอให้ไปเท่าที่จำเป็น ซึ่งผู้เข้าประเทศจะต้องผ่านระบบการกักตัว (Quarantine)

ผู้สื่อข่าวถามถึงการฉีดวัคซีนในเด็ก มีข้อมูลจากต่างประเทศอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้วัคซีนที่ได้รับอนุญาตฉีดในเด็ก โดยองค์การอนามัยโลก และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นวัคซีนชนิด mRNA เช่น ไฟเซอร์ ฉีดได้ 5-12 ปี อายุ 12-18 ปี และ อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยใช้ขนาดน้อยกว่า 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่ ดังนั้น อาการไม่พึงประสงค์ก็จะน้อยลงไป และมีความปลอดภัย

Advertisement

“การฉีดไฟเซอร์ให้เด็ก 12-17 ปี ก่อนเปิดเทอมรวม 7-8 ล้านโดส ข้างเคียงโดยทั่วๆ ไปพบได้แต่ไม่เป็นอันตราย ส่วนภาวะที่เกิดขึ้นจากวัคซีนไฟเซอร์ หรือ mRNA อื่นๆ คือ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งเราเจอประมาณ 20 กว่าราย และส่วนใหญ่อาการน้อย โดยยังไม่มีผู้เสียชีวิต” นพ.โอภาส กล่าว

นพ.โอภาส กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5-12 ปี ของต่างประเทศ พบว่าเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบน้อยกว่าวัคซีนที่ฉีดในเด็กโตทั่วไป อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image